เดินหน้าผลักดันต้นแบบพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ บ้านแม่หาด ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
แม่ฮ่องสอน กับการขับเคลื่อนพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษระดับจังหวัด
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าภูเขา โดยมีพื้นที่ป่าประมาณ 6,860,611.94 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 85.99 ของพื้นที่ ขณะเดียวกันจากการสำรวจข้อมูลชุมชนหมู่บ้านทั้งหมด 415 หมู่บ้าน พบว่า ชุมชนจำนวน 347 หมู่บ้าน ตั้งอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ทั้งเขตป่าสงวน เขตอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทำให้ชุมชนมีข้อจำกัดในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติตามวิถีวัฒนธรรมตามวิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ถนน ไฟฟ้า การบริการสาธารณสุข ได้อย่างเพียงพอและมีคุณภาพ ดังปรากฏภาพถนนที่ใช้เดินทางสัญจรไปมาที่มีความยากลำบาก ในฤดูฝนจะเต็มไปดินเหนียว โคลนตม เป็นหลุมเป็นบ่อ บ้างมีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นทับเส้นทาง หรือต้นไม้ยักษ์หักโค่นกีดขวางเส้นทาง เป็นอุปสรรคของการเดินทางที่หลายชุมชนต้องเผชิญ แม้จะมีความพยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขและพัฒนา แต่ก็ติดข้อจำกัดด้านกฎหมายและนโยบายด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2563 ได้มีการประกาศให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่เขตวัฒนธรรมพิเศษระดับจังหวัด ในโอกาสครบครบ 10 ปี มติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ซึ่งกำหนดให้มีแนวคิดพื้นที่เขตวัฒนธรรมพิเศษ เป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐต้องดำเนินการ พัฒนาให้เกิดรูปธรรมของการคุ้มครองละส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ให้ชัดเจน โดยเฉพาะการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน สิทธิการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการเคารพสิทธิทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์
ภาพที่ 1 การจัดงาน “มหกรรมไร่หมุนเวียน และการสถาปนาพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี มติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553”
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2563 ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
การขับเคลื่อนพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เกิดความพยายามพัฒนาให้เกิดพื้นที่รูปธรรมในระดับท้องถิ่นและชุมชนโดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน เครือข่ายภาคประชาสังคมและสถาบันวิชาการในพื้นที่ ดำเนินการศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูลและส่งเสริมศักยภาพชุมชนชาติพันธุ์ให้มีความเข้มแข็งบนฐานการเคารพวิถีวัฒนธรรมภูมิปัญญา และสื่อสารให้เห็นศักยภาพของชุมชนชาติพันธุ์ที่สามารถอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างสมดุลและยั่งยืน ดังปรากฏกรณีชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านแม่หาด ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งถือเป็นชุมชนชาติพันธุ์ที่มีความโดดเด่นด้านอัตลักษณ์ วิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ จนสามารถผลักดันให้เป็น “หมู่บ้านวัฒนธรรมพิเศษบ้านแม่หาด” ในวันที่ 10 ธันวาคม 2563 โดยได้กำหนดเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวดที่จะต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนบ้านแม่หาดได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต เกิดการพัฒนาแนวทางปกป้อง คุ้มครอง และส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กลไกความร่วมมือระหว่างชุมชนบ้านแม่หาด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานองค์กรภาคีในระดับพื้นที่
ภาพที่ 2 ป้ายทางเข้าหมู่บ้าน แสดงข้อความ “หมู่บ้านวัฒนธรรมพิเศษบ้านแม่หาด”
การดำเนินการดังกล่าวได้แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นในหลักการ แนวคิดพื้นที่เขตวัฒนธรรมพิเศษที่ปรากฏในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2553 ซึ่งชุมชนและท้องถิ่นได้เห็นร่วมกันว่าเป็นเครื่องมือในการพัฒนาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพให้สอดคล้องตามวิถีวัฒนธรรมของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการขับเคลื่อนพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษดังกล่าวได้ปรากฏให้เห็นและเป็นที่รับรู้ของสังคม ชุมชนชาติพันธุ์มากขึ้น และถูกยอมรับให้เห็นบทบัญญัติสำคัญใน “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตพันธุ์ พ.ศ. ...” ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 และอยู่ระหว่างนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
หมู่บ้านวัฒนธรรมพิเศษบ้านแม่หาด ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
บ้านแม่หาด ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงดั้งเดิม สามารถสืบค้นข้อมูลประวัติศาสตร์การบอกเล่าพบว่า มีการตั้งถิ่นฐานชุมชนมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ.2300 (ประมาณ 268 ปี) ปัจจุบันมีประชากรทั้งหมด 663 คน จำนวน 122 ครัวเรือน ได้ดำเนินการประกาศให้เป็น “หมู่บ้านวัฒนธรรมพิเศษ” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 ภายหลังที่ได้มีการประกาศให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่เขตวัฒนธรรมพิเศษระดับจังหวัด โดยองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวดได้กำหนดเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่นที่จะต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนบ้านแม่หาดได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต เกิดการพัฒนาแนวทางปกป้อง คุ้มครอง และส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กลไกความร่วมมือระหว่างชุมชนบ้านแม่หาด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงาน องค์กรภาคีในระดับพื้นที่
ภาพที่ 3 แสดงบ้านเรือนภายในชุมชนบ้านแม่หาด
ชุมชนบ้านแม่หาดมีพื้นที่ทั้งหมด 13,710 ไร่ จำแนกพื้นที่ออกเป็น พื้นที่อยู่อาศัยจำนวน 237 ไร่ พื้นที่ทำกิน (ที่นา ที่สวน) จำนวน 418 ไร่ พื้นที่ไร่หมุนเวียน 10,741 ไร่ (จำนวน 5 แปลงใหญ่หมุน) พื้นที่ใช้ประโชน์ (พื้นที่ป่าใช้สอยและพื้นที่สาธารณะ) จำนวน 1,101 ไร่ พื้นที่อนุรักษ์ (ป่าต้นน้ำและป่าอนุรักษ์) จำนวน 1,142 ไร่ และพื้นที่พิธีกรรม จำนวน 69 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 การดำรงวิถีชีวิตของชาวบ้านแม่หาดส่วนใหญ่ยังคงดำรงวิถีการทำไร่หมุนเวียนในลักษณะของการทำไร่แบบแปลงรวม (ไร่หมุนเวียนแปลงใหญ่) ขณะเดียวกันยังมีวิถีชีวิตที่พึ่งพิงอยู่กับทรัพยากรธรรมชาติตามวิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สะท้อนให้เห็นอัตลักษณ์ ความโดดเด่นของความเป็นชาติพันธุ์กะเหรี่ยง
ภาพที่ 4 แสดงข้อมูลประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินและการจัดการป่าชุมชน บ้านแม่หาด
ภาพที่ 5 แผนภาพแสดงข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทไร่หมุนเวียนบ้านแม่หาด
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล การเดินทางค่อนข้างยากลำบากโดยเฉพาะในฤดูฝนที่ถนนบางช่วงจะเป็นโคลนตม มีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นทับเส้นทาง ยากต่อการสัญจรจึงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำรงชีวิต นอกจากนี้ชุมชนยังขาดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ที่มีคุณภาพและเพียงพอ ส่งผลต่อโอกาสในการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในปัจจุบันจึงมีความพยายามสร้างความร่วมมือจากหลายภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนบ้านแม่หาดให้ดีขึ้น ดังปรากฏการจัดกิจกรรมเวทีประชุมพัฒนาแผนสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิต การเข้าถึงทรัพยากร พื้นที่คุ้มครองวัฒนธรรมและรับมือสภาวะโลกร้อน ในพื้นที่ชุมชนต้นแบบบ้านแม่หาด ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน” ระหว่างวันที่ ๓ - ๕ สิงหาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการนำเสนอความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนต้นแบบให้เข้าถึงสิทธิในทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ โดยออกแบบให้มีกิจกรรมประชุมและเสวนาแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นร่วมกันระหว่างผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคมและเครือข่ายชุมชนชาติพันธุ์ในพื้นที่ โดยได้มีการออกแบบและพัฒนาแนวทางที่นำไปสู่การจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ชุมชนให้มีความครอบคลุมทั้งในด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูวิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตบนฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม
ภาพที่ 6 เส้นทางระหว่างการเดินทางเข้าสู่บ้านแม่หาด
การจัดเวทีประชุมครั้งนี้ได้มีผู้แทนจากศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแม่ฮ่องสอน, ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน), สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน), มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ, มูลนิธิกะเหรี่ยงเพื่อการพัฒนาและบริการ, องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด, โรงเรียนบ้านแม่หาด, และชาวบ้านแม่หาด จำนวน 200 คน เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอข้อมูลชุมชน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอแนวทางการพัฒนาชุมชนบ้านแม่หาดที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหา ความต้องการ บนฐานของการวิเคราะห์ทุนและศักยภาพของชุมชนร่วมกัน
“เราเป็นชุมชนอยู่ตรงนี้มาเนิ่นนาน ยังคงวิถีการทำไร่หมุนเวียน อนุรักษ์ และร่วมดูแลผืนป่า
เรามีพืชผลทางการเกษตร เราทอผ้า แต่ไม่มีที่ขาย ทำให้ไม่มีรายได้ มันเลยไม่สนุก”
(ผู้แทนกลุ่มทอผ้าชุมชนบ้านแม่หาด)
ชาวบ้านแม่หาดคนหนึ่งนำเสนอให้เห็นว่าชาวบ้านแม่หาดยังดำรงการทำไร่หมุนเวียนดั้งเดิม ขณะเดียวกันในสถานการณ์ปัจจุบันชาวบ้านยังเผชิญกับข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต แม้จะมีการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้องค์ความรู้ ภูมิปัญญาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน แต่ด้วยสภาพพื้นที่ที่ห่างไกล มีความยากลำบากในการเดินทาง และการเข้าถึงระบบสาธารณปโภคพื้นฐานที่ยังเป็นข้อจำกัด ทำให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนยังขาดตลาดรองที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอย้อมสีจากธรรมชาติ กาแฟอินทรีย์ เป็นต้น ทั้งนี้ประชากรบางส่วนของชุมชนบ้านแม่หาดยังมีปัญหาการไม่ได้รับรองสถานะบุคคล ทำให้เป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ ส่งผลต่อการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐ อย่างไรก็ดี แม้ชุมชนจะเริ่มต้นด้วยนำเสนอสถานการณ์ปัญหา แต่ในอีกด้านหนึ่งผู้นำชุมชนก็นำเสนอให้เห็นทุนและศักยภาพภายในชุมชนที่เข้มแข็ง โดยนำเสนอให้เห็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชนทำกิจกรรมร่วมกันในหลายประเด็นครอบคลุมด้านการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจบนฐานวัฒนธรรม เช่น การปลูกกาแฟอินทรีย์ การทอผ้าย้อมสีจากธรรมชาติ การดำรงวิถีการทำไร่หมุนเวียน การเก็บหาและใช้ประโยชน์พืชในป่าใช้สอย เช่น หน่อไม้ บุก ซึ่งเป็นพืชทดแทนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผืนป่ารอบหมู่บ้าน การรวมกลุ่มอนุรักษ์และจัดทรัพยากรธรรมชาติ การรวมกลุ่มจัดการท่องเที่ยวชุมชน กลุ่มออมทรัพย์สีเขียว เป็นต้น
ภาพที่ 7 แสดงแปลงไร่หมุนเวียนในปัจจุบันของบ้านแม่หาด
“เราอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เวลาเจ็บป่วยต้องเดินทางไปโรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายในการรักษา และการเดินทาง แต่พวกเราไม่มีเงิน บางครั้งเราอยากมีทุน แต่ก็เข้าไม่ถึงธนาคาร จึงมีแนวคิดรวมกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อนำเงินมาใช้ดูแลสมาชิก บรรเทาความทุกข์ยาก เป็นสวัสดิการที่พวกเราดูแลกันเองในชุมชน” (ผู้นำกลุ่มออมทรัพย์ชุมชนบ้านแม่หาด)
การนำเสนอข้อมูลของผู้นำชุมชนดังกล่าวได้แสดงให้เห็นความพยายามร่วมกันของชุมชน ในการจัดการปัญหาที่เป็นข้อจำกัดในการดำรงชีวิต โดยปรับใช้ทุนและทรัพยากรที่มีอยู่ภายในชุมชน ทั้งที่เป็นทุนทรัพยากรธรรมชาติ ทุนความรู้ ภูมิปัญญาวัฒนธรรม ทุนเครือญาติซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาชุมชน ตลอดจนการแสวงหาทุนทางสังคมที่ต้องประสานความสัมพันธ์กับเครือข่ายหน่วยงาน องค์กรภายนอกที่จะเข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของชุมชน ทั้งในด้านการจัดการเกษตรที่ยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การบริหารจัดการข้อมูลชุมชน การขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบาย เป็นต้น
ภาพที่ 8 บรรยากาศกิจกรรมเวทีประชุมพัฒนาแผนสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิต การเข้าถึงทรัพยากร พื้นที่คุ้มครองวัฒนธรรมและรับมือสภาวะโลกร้อน ในพื้นที่ชุมชนต้นแบบบ้านแม่หาด ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน” ระหว่างวันที่ 3 - 5 สิงหาคม 2568
ภาพที่ 9 การนำเสนอข้อมูลชุมชนบ้านแม่หาด
ก้าวสู่ ต้นแบบพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์บ้านแม่หาด
ชุมชนบ้านแม่หาดถือเป็นชุมชนชาติพันธุ์ที่มีศักยภาพและความเข้มแข็งภายในชุมชน โดยเฉพาะการดำรงอัตลักษณ์ วิถีวัฒนธรรมความเป็นชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่โดดเด่นทั้งในด้านการใช้ภาษา การแต่งกาย การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน ตลอดจนการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กรทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ดังปรากฏการประกาศให้เห็นหมู่บ้านวัฒนธรรมพิเศษบ้านแม่หาด ตามมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 โดยมีองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด เป็นหน่วยงานในระดับท้องถิ่นให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีการประกาศรับรองร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ... ของสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นหมุดหมายและโอกาสสำคัญของชุมชนบ้านแม่หาดที่จะยกระดับการดำเนินงานสู่การต้นแบบพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาแนวทางการดำเนินงานในการคุ้มครองสิทธิวัฒนธรรมและสิทธิขั้นพื้นฐานของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ให้ได้รับการปกป้อง ไม่ให้ถูกละเมิด ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการปรับใช้ทุนวัฒนธรรม องค์ความรู้ ภูมิปัญญาของชุมชนมาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบริบท วิถีชีวิต วัฒนธรรมของชุมชน โดยเฉพาะประเด็นพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว โดยชุมชนบ้านแม่หาดสามารถยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลชุมชนที่มีอยู่เดิมทั้งในด้านการศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์ชุมชน วิถีวัฒนธรรม การจัดทำข้อมูลแผนที่แสดงขอบเขตชุมชนที่แสดงให้เห็นรายละเอียดพื้นที่ประเภทด้านต่างๆ (พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่กิน พื้นที่ใช้ประโยชน์ พื้นที่พิธีกรรมและพื้นที่อนุรักษ์) นำเสนอให้เห็นข้อมูลการอนุรักษ์ ข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติทั้งในอดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต เพื่อวางแผนการบริหารจัดการบนฐานการมีส่วนร่วมจากหน่วยงาน องค์กร และชุมชนรอบข้างให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน ตลอดจนการวิเคราะห์ทุนและศักยภาพภายในชุมชน เพื่อร่วมกันกำหนดแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตบนฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม ที่จะนำเสนอให้เห็นรูปธรรมการพัฒนาและแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์
ภาพที่ 10 ผู้แทนหน่วยงาน องค์กร รับฟังข้อมูลชุมชนบ้านแม่หาด
ภาพที่ 11 การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสอแนวทางการพัฒนาชุมชนบ้านแม่หาด
ผู้เขียน
ดร.เจษฎา เนตะวงศ์
นักบริหารเครือข่ายและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ
ฝ่ายสื่อสารสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
ป้ายกำกับ ชาติพันธุ์ พื้นที่คุ้มครอง กฏหมายชาติพันธุ์ ดร.เจษฎา เนตะวงศ์