ข้อมูลโครงการพัฒนาฐานข้อมูลงานวิจัยทางชาติพันธุ์ในประเทศไทย
และประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความเป็นมาและหลักเหตุผล
ในบริเวณพื้นที่ที่ถูกเรียกว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่ในประเทศไทยด้วยเป็นพื้นที่หนึ่งในภูมิภาคต่างๆ ของโลกที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์สูง กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เหล่านี้พูดภาษาต่างๆ ซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาหลายตระกูล เช่น ออสโตรเอเชียติก ไท จีน-ทิเบต แม้ว-เย้า และออสโตรเนเชียน เป็นต้น (นักภาษาศาสตร์ได้จำแนกตระกูลภาษาที่แตกต่างกันไปตามหลักการ และเหตุผลที่ต่างกัน สำหรับในฐานข้อมูลนี้จะอาศัยการจำแนกของ ศ.ดร.สุวิไล เปรมศรีรัตน์ ซึ่งมีประสบการณ์ทางวิจัยภาษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน) มีวิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ การจัดระเบียบสังคมและการเมือง ความเชื่อ ตลอดจนอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ต่างๆ กัน
พื้นที่เหล่านี้จึงกลายเป็นสนามวิจัยของนักวิชาการในสาขาต่างๆ เช่น มานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ คติชนวิทยา และอื่นๆ การศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากนักวิชาการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องกว่าสามทศวรรษแล้ว งานศึกษาวิจัยที่มีอยู่จำนวนมากนั้น กระจัดกระจายอยู่ตามสถาบันวิชาการและมหาวิทยาลัยต่างๆ ยากในการศึกษาค้นคว้า ทำให้การเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ การพัฒนาองค์ความรู้ ทิศทางการวิจัยเกี่ยวกับชาติพันธุ์ และประมวลองค์ความรู้ด้านชาติพันธุ์ในประเทศไทยเป็นไปด้สยความยากลำบาก และไม่รอบด้านเท่าที่ควร
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้ริเริ่มโครงการพัฒนาฐานข้อมูลงานวิจัยทางชาติพันธุ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้นักวิชาการรุ่นใหม่มีความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์ และมีแหล่งข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งสามารถใช้แบบออนไลน์จากฐานข้อมูลที่ถูกจัดอย่างมีระบบซึ่งสืบค้นได้ง่าย เพื่อให้ผู้สนใจสามารถเรียกใช้ข้อมูลตามประเด็นสำคัญ และสามารถประมวลเนื้อหาสาระที่เป็นพื้นฐานต่อการพัฒนาประเด็นวิจัยในเชิงลึกต่อไป
การดำเนินการ
โครงการฯ นี้ริเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ในวาระที่คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร และดำเนินการต่อโดย ดร.ปริตตา เฉลิมเผ่า กออนันตกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ในระยะต่อมา ได้มอบหมายคณะทำงานโครงการพัฒนาฐานข้อมูลงานวิจัยทางชาติพันธุ์ประกอบด้วย ดร.ฉวีวรรณ ประจวบเหมาะ (กรรมการวิชาการศูนย์ฯ เป็นหัวหน้าโครงการ) น.ส.สรินยา คำเมือง น.ส.สมรักษ์ ชัยสิงห์กานานนท์ (นักวิชาการศูนย์ฯ) นายสกุล สาระจันทร์ (โปรแกรมเมอร์ของศูนย์ฯ) น.ส.บุญสม ชีรวณิชย์กุล และ น.ส.อธิตา สุนธโรทก (นักวิชาการอิสระทำหน้าที่นักวิจัยผู้ช่วย) ให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ซึ่งได้ดำเนินการระหว่าง พ.ศ. 2546-2552
ในปี 2554 โครงการฯ จะเพิ่มงานวิจัยชาติพันธุ์ที่เป็นงานหลักของโครงการแล้ว และจะขยายกรอบการทำงานด้านชาติพันธุ์ใน 3 มิติ คือ งานฐานข้อมูลงานวิจัยชาติพันธุ์ งานเครือข่าย และงานวิชาการ โดยจะนำเสนอความรู้ ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงเครือข่าย เป็นตัวกลางในการสร้างความเข้าใจและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรอิสระ กลุ่มชาติพันธุ์ และสื่อมวลชนให้มีความเข้าใจและเคารพในวัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมทั้งนำเสนอบทความ เสวนาวิชาการให้สอดคล้องกับประเด็นปัญหาที่น่าสนในสถานการณ์ปัจจุบัน
ขอบเขตของการดำเนินการ
1. เนื้อหาสาระงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่จัดเก็บในฐานข้อมูล
หลังจากที่คณะทำงานฯ ได้ศึกษาฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องและมีลักษณะใกล้เคียงกับที่ต้องการอย่างเช่น ฐานข้อมูล The Human Relations Area Files (HRAF)ของ Yale University ซึ่งได้รวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์วรรณามานานกว่า 50 ปีก่อนจะจัดทำฐานข้อมูลออนไลน์แบบในปัจจุบัน เห็นว่าฐานข้อมูลแต่ละฐานต่างก็มีวัตถุประสงค์การวิเคราะห์การเรียกข้อมูลในของตนเอง และมีขอบเขตตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้
ฐานข้อมูลนี้มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สนใจงานวิจัยด้านชาติพันธุ์สามารถใช้ฐานข้อมูลได้เพื่อหาความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาสาระของงานวิจัยทางชาติพันธุ์แต่ละงานในเบื้องต้นเป็นพื้นฐานก่อน หากต้องการอ่านตัวงานใดที่สนใจเป็นพิเศษสามารถค้นคว้าหาอ่านได้เอง ซึ่งเป็นการช่วยให้นักวิจัยสามารถสืบค้นต่อไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ทางโครงการฯ จึงจัดให้มีผู้สรุปประเด็น (Text Analyst) ของงานแต่ละงานตามหัวข้อ (Subject Categories) ต่างๆ ดังต่อไปนี้ คือ
|
Subject categories
|
คำอธิบาย
|
1
|
Text Analyst
|
ระบุชื่อ-สกุล ผู้อ่านสรุปงาน
|
2
|
Subject
|
คำสำคัญ ที่บ่งบอกสาระสำคัญครอบคลุมประเด็นหลักของงานวิจัยหนังสือหรือบทความ นั้นๆ ตามลำดับความสำคัญดังนี้ ชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ ประเด็นหลัก ประเด็นรอง จังหวัด/ภาค
|
3
|
Author
|
ระบุชื่อผู้แต่ง หรือชื่อบรรณาธิการ ตามที่ปรากฏในหนังสือหรือบทความ
เอกสารภาษาไทย : ระบุชื่อ-สกุลผู้แต่ง (ราชทินนาม ยศ ตำแหน่ง) ระบุไว้ท้ายชื่อสกุล
เอกสารภาษาอังกฤษ: ระบุชื่อสกุล, ชื่อกลาง, ชื่อตัว
|
4
|
Titles
|
ชื่อเรื่อง (งานที่เขียนด้วยภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย ให้ใส่ชื่อเรื่องตามภาษาที่ใช้เขียนงาน และใส่ชื่อเรื่องที่แปลเป็นไทยต่อท้าย ยกเว้นงานที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษ ไม่ต้องแปล)
|
5
|
Document Type
|
ระบุประเภทเอกสาร (หนังสือ, บทความ, รายงานวิจัย, วิทยานิพนธ์)
|
6
|
Total pages
|
ระบุจำนวนหน้า หรือ ช่วงหน้าของงาน
|
7
|
Source
|
ที่มาของบทความ/งานวิจัย ระบุชื่อหนังสือ/วารสาร ตามหลักของการเขียนบรรณานุกรม
(ชื่อหนังสือ “ชื่อบทความ”, สำนักพิมพ์, สถานที่พิมพ์, หน้า)
|
8
|
Year
|
ปีที่ตีพิมพ์
|
9
|
Location of Document
|
แหล่งที่พบและ/หรือจัดเก็บ เอกสาร/งานวิจัย/บทความ ชิ้นนั้นๆ
(เอกสาร/บทความสำเนาให้ระบุว่ามาจากศูนย์ฯ)
|
10
|
Focus
|
สรุปจุดเน้นของการศึกษาวิจัย
|
11
|
Theoretical Issue
|
ข้อเสนอหรือแนวคิดที่ผู้เขียนใช้ในการศึกษา
การเชื่อมโยงปรากฏการณ์ต่างๆ ในการศึกษา
|
12
|
Ethnic Group(s) in the Study
|
ให้ระบุกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นเป้าหมายในงานศึกษาเป็นหลัก
|
13
|
Language and
Linguistic Affiliation
|
อธิบายและให้ข้อมูลระบบภาษาและการจัดจำแนกตระกูลภาษา ที่ปรากฏในงาน
|
14
|
Community Site and Environment
|
สถานที่ทำการศึกษาวิจัย ระบุชื่อชุมชน/ตำบล/ อำเภอ/จังหวัด/ประเทศ/ทวีป
(ให้ระบุพิกัดละติจูดลองติจูด หากมีปรากฏในงานศึกษา)
ให้ข้อมูลลักษณะภูมิประเทศโดยสังเขป
|
15
|
Study Period
|
ช่วงเวลาของการศึกษาวิจัย
(ระบุด้วยว่าเป็นการเก็บข้อมูลภาคสนาม ในช่วงใด)
|
16
|
History of the Group and community
|
ประวัติความเป็นมาของชุมชนที่ปรากฏในงานศึกษา
1. หากเป็นงานศึกษาทางประวัติศาสตร์ ให้ข้อมูลเวลาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชุมชน
2. หากเป็นงานศึกษาชุมชน ให้ระบุเวลาในการศึกษาชุมชน
3. หากในงานศึกษาปรากฏข้อมูลทั้ง 2 ประเภท ให้ระบุข้อมูลทั้ง 2 ประเภท
|
17
|
Settlement Pattern
|
ให้ข้อมูลรูปแบบการตั้งถิ่นฐาน ลักษณะการตั้งบ้านเรือนของชนกลุ่มนั้น ตามที่ปรากฏในงานศึกษา
|
18
|
Demography (population number and structure, migration, birth and death) :
|
ให้ข้อมูลประชากร(ความหนาแน่น/อัตราการเกิด การตาย/จำนวนประชากร) ตามที่ปรากฏในงานศึกษา หากมีข้อมูลหลายระดับให้ใส่รายละเอียดมาด้วย
|
19
|
Economy (natural resources, resource utilization, technology, production, exchange, and consumption)
|
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบการผลิต การแลกเปลี่ยน การบริโภค ตามที่ปรากฏในงานศึกษา
|
20
|
Social Organization (marriage, family structure types, kinship including descent groups, other kinds of grouping such as client-patron relationship, classes, interested groups and socialization)
|
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างทางสังคมที่ปรากฏในงานศึกษา
|
21
|
Political Organization (power structure and relations, leadership, factions, conflicts, relationship to state, social control, laws)
|
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมืองการปกครองที่ปรากฏในงานศึกษา
|
22
|
Belief Systems (beliefs, values, ideology, religious rites and practices)
|
ให้รายละเอียดด้านศาสนา พิธีกรรม ความเชื่อ
|
23
|
Education and Socialization
|
ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษา การสืบทอดความรู้ และการเชื่อมโยงกับกระบวนขัดเกลาทางสังคม
|
24
|
Health and Medicine (sanity, beliefs related to health and healing)
|
อธิบายระบบการสาธารณสุขและการรักษาพยาบาล(ภูมิปัญญาในการรักษา) ที่กล่าวถึงในงานศึกษานั้นๆ
|
25
|
Folklore (myths, legends, stories and play)
|
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมุขปาฐะ นิทาน ตำนาน ที่ปรากฏในงานศึกษา
|
26
|
Arts and Crafts (architecture, clothing, literature, handicrafts, songs, dances, etc.)
|
ให้ข้อมูลด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะการแสดง หัตถกรรม เสื้อผ้า การแต่งกาย
ที่ปรากฏในงานนั้นๆ
|
27
|
Ethnicity (ethnic identity, identification, ethnic maintenance, boundaries and relation)
|
ให้รายละเอียดความสัมพันธ์ทางชาติพันธุ์กับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ
หรือการธำรงชาติพันธุ์
ให้ใส่รายละเอียดการเรียกชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีนัยยะของความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกัน
|
28
|
Socio-Cultural Change
|
อธิบายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรม
|
29
|
Other Issue
|
ประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่เน้นในงานศึกษาวิจัย
|
30
|
Abstract
|
สรุปสาระสำคัญของงานศึกษา
|
31
|
Map & Illustrate
|
ให้ระบุชื่อภาพ แผนที่ ที่ปรากฏในงาน
|
32
|
Date of Report
|
ระบุวันที่ส่งงานมาให้ตรวจสอบความถูกต้องความครบถ้วนของเนื้อหา
|
2. กลุ่มชาติพันธุ์และขอบเขตพื้นที่ที่จะสรุปงานวิจัยลงฐานข้อมูล
โครงการฯ ได้กำหนดขอบเขตความหมายของกลุ่มชาติพันธุ์ในลักษณะที่กว้างเพื่อที่จะสามารถครอบคลุมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้ในหลายลักษณะเนื่องจากการกำหนดความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กันอย่างเช่น ในช่วงเวลาของทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ งานวิจัยทางชาติพันธุ์ในยุคสมัยต่างจึงสะท้อนความหมายที่มีอยู่แตกต่างกันและแม้ในปัจจุบันก็ยังมีการใช้ในความหมายที่แตกต่าง
จากการที่โครงการฯ ใช้ในความหมายที่กว้างดังกล่าว จึงทำให้ฐานข้อมูลมีขอบเขตที่กว้างขวางครอบคลุมทุกกลุ่มที่ระบุตัวเองว่ามีความแตกต่างทางวัฒนธรรมจากกลุ่มอื่น หรือถูกระบุว่ามีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในขั้นแรกนี้ทางโครงการฯ จึงพยายามวางกรอบและขอบเขตให้แคบเข้า จึงเลือกเก็บเนื้อหา “กลุ่มชาติพันธุ์” ต่างๆ ที่ถูกมองว่าเป็น “ชนกลุ่มน้อย” ของประเทศไทย จึงอาจจะไม่มีงานวิจัยที่เกี่ยวกับคนไทยภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และยังไม่ได้รวมงานวิจัยเกี่ยวกับ “ชาวจีนโพ้นทะเล” ในประเทศไทย ซึ่งได้มีสถาบันวิชาการอย่างเช่น สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีความสนใจและได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชาวจีนอยู่แล้ว
3.ลักษณะข้อมูล
ในฐานข้อมูลจะมี 2 ประเภทคือ
1. สรุปงานวิจัยด้านชาติพันธุ์ ตาม Subject categories
2. การสืบค้นงานวิจัยผ่านแผนที่
4. ผู้อ่านงาน(text analyst)
โครงการฯ เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจงานด้านชาติพันธุ์มาร่วมอ่านงาน โดยได้เปิดรับสมัครนิสิต นักศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้นปริญญาตรี ปริญญาโท และบุคคลทั่วไป เข้ามารับทราบรายละเอียดของโครงการ และแนวทางในการดำเนินงาน และได้มีการฝึกปฏิบัติ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2546 มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมฝึกอบรมและเริ่มอ่านงานในรุ่นแรก จำนวน 32 คน จากนั้นมีการฝึกอบรมพร้อมกับการทบทวนความรู้เกี่ยวกับประเด็นศึกษาสำคัญ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2546
ปัจจุบันเครือข่ายสมาชิกผู้อ่าน จนถึงเดือนสิงหาคม 2554 มีผู้เข้าร่วมอ่านงานให้เราจำนวน 183 คน ซึ่งมาจากอาชีพ หลากหลาย ทั้งนิสิต นักศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรี บุคคลทั่วไป เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าหน้าที่จากองค์กรเอกชน และเรายังคงเปิดรับผู้อ่านงาน เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง หากท่านรักการอ่าน และสนใจเรื่องชาติพันธุ์ ชาวเขา ชนกลุ่มน้อย มีความสามารถในการเรียบเรียงถ่ายทอดประเด็นศึกษาสำคัญ หรือต้องการฝึกทักษะ การอ่านจับใจความ และต้องการพัฒนาการศึกษาเรื่องชาติพันธุ์ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากท่านสนใจจะเข้าร่วมงานกับเรา
ร่วมงานกับเรา
โครงการฯ มีความตั้งใจส่งเสริมให้ผู้สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการอ่านและสังเคราะห์งานวิจัยเพื่อลงในฐานข้อมูล ทั้งที่เป็น หนังสือ วิทยานิพนธ์ งานวิจัย บทความ ซึ่งจะมีทั้งงานที่เขียนด้วยภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ อาทิเช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเวียดนาม เพื่อสรุปเรียบเรียงเนื้อหาสาระสำคัญ เป็นภาษาไทย ตามประเด็นที่เราได้ตั้งไว้ 32 หัวข้อ โปรดดูคำสำคัญและคำแนะนำในการอ่านงาน
การส่งงาน-ตรวจ-แก้ไข-นำเข้าสู่ระบบ
เมื่อท่านส่งงานที่ได้สรุปสาระสำคัญในการศึกษามาให้เราแล้ว งานชิ้นดังกล่าวจะได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านชาติพันธุ์ หากมีข้อแก้ไข เราจะคืนงานให้ท่านไปปรับแก้ตามคำแนะนำของนักวิชาการ งานที่ผ่านการปรับแก้แล้ว จะนำเข้าสู่ระบบการสืบค้นเพื่อเผยแพร่ต่อไป
ข้อคำนึง
เพื่อเป็นการเคารพสิทธิทางปัญญาของเจ้าของงานต้นฉบับ ขอความกรุณาผู้อ่านงานทุกท่าน อย่าได้คัดลอกหรือตัดต่อข้อความใดๆ ในเนื้องาน ขอให้เรียบเรียงด้วยถ้อยคำ สำนวนภาษาของท่านเอง และขอให้ระบุหน้า หรือช่วงหน้า ที่ปรากฏเนื้อหาดังกล่าวไว้ท้ายข้อความนั้นๆ ทั้งนี้ชื่อผู้อ่านงานทุกท่านจะปรากฏในงานแต่ละชิ้นด้วย
|