นัยนามแห่งอิสลาม: บทสำรวจคำสอนอิสลาม ว่าด้วยสันติภาพ ความรุนแรง ครอบครัว และสตรี เขียนโดย สุชาติ เศรษฐมาลินี

 |  อคติทางวัฒนธรรม และความรุนแรง
ผู้เข้าชม : 3446

นัยนามแห่งอิสลาม: บทสำรวจคำสอนอิสลาม ว่าด้วยสันติภาพ ความรุนแรง ครอบครัว และสตรี เขียนโดย สุชาติ เศรษฐมาลินี

 

นัยนามแห่งอิสลาม: บทสำรวจคำสอนอิสลาม ว่าด้วยสันติภาพ ความรุนแรง ครอบครัว และสตรี

เขียนโดย  สุชาติ เศรษฐมาลินี

 

ปริยฉัตร เวทยนุกูล

บรรณารักษ์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

 

ภาพปกหนังสือนัยนามแห่งอิสลาม

 

           อาจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นชาวมุสลิมเชื้อสายจีนยูนนาน ที่เกิดและเติบโตในจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์สุชาติ มองว่าสังคมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นระดับกว้างในโลกตะวันตกหรือในโลกมุสลิม รวมทั้งที่แคบลงมาในสังคมไทย ดูเหมือนว่ายังคงตกอยู่ภายในวังวนของความขัดแย้งและความหวาดระแวง ไม่ไว้ใจกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งระหว่างศาสนา สำหรับผู้ที่เป็นมุสลิมแล้ว ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองว่าศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งความรุนแรง และเหมารวมว่ามุสลิมคือผู้ก่อการร้าย จนเกิดอาการที่เรียกว่า “อิสลามโมโฟเบีย” (Islamophobia) หรือโรคเกลียดกลัวอิสลาม แพร่กระจายไปในวงกว้างและรวดเร็วอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

           สาเหตุของความกลัวอิสลามมาจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน ในส่วนของปัจจัยภายนอก ได้เห็นงานทางวิชาการของ เอ็ดเวิร์ด ซาอิด ที่ชี้ให้เห็นว่าโลกตะวันตกมีความพยายามสร้างชุดองค์ความรู้ เพื่อเขียนภาพอิสลามให้เป็นไปตามจินตนาการของโลกตะวันตก วัฒนธรรมอาหรับและอิสลามจึงถูกสื่อออกมาในลักษณะที่เป็นสิ่งแปลกประหลาด ล้าหลัง ไร้อารยธรรม และอันตราย นอกจากอคติในงานวิชาการแล้ว ภาพความป่าเถื่อน ความน่ากลัวของอิสลามและมุสลิม ยังถูกผลิตซ้ำในสื่อแทบทุกแขนงในโลกตะวันตก เช่น ในภาพยนตร์ฮอลลีวูด มุสลิมหรือชาวอาหรับมักเป็นผู้ร้ายเสมอ เป็นต้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สื่อในโลกตะวันตกได้พยายามบิดเบือนเพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิงลบเกี่ยวกับอิสลามอย่างชัดเจน แม้ว่าหลายประเทศเริ่มจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการกับความบิดเบือน และการทำร้ายหรือเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิมแล้วก็ตาม

           สำหรับปัจจัยภายในของความกลัวอิสลามนี้ ต้องยอมรับว่าในหมู่มุสลิมเองก็มีบางกลุ่มที่นิยมใช้ความรุนแรงและสร้างความเสียหายอย่างมาก แม้จะเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยก็ตาม เมื่อเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ก็ย่อมสร้างความหวาดกลัวให้แก่คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลาม

           ในกรณีของประเทศไทย ก็ถูกตอกย้ำด้วยสถานการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำให้คนไทยในที่อื่นๆ เกิดความหวาดกลัวชาวมุสลิมเช่นกัน

           ดังนั้น อาจารย์สุชาติ จึงเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาโดยหวังว่า จะทำให้ผู้อ่านได้เห็น และเข้าใจถึงชีวิต ความคิดและความเชื่อของชาวมุสลิม รวมถึงเข้าใจศาสนาอิสลามมากขึ้น และนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างราบรื่นและสันติ

           เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ แบ่งเป็น 4 หัวข้อหลักๆ โดยอาจารย์สุชาติ ได้เริ่มต้นสร้างความรู้

           ความเข้าใจด้วยการอธิบายหลักการของศาสนาอิสลามในหัวข้อ “อิสลามกับสันติภาพ” เพื่อวางพื้นฐานความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาอิสลามกับการศึกษาสันติวิธี การสร้างสันติภาพและการจัดการความขัดแย้งในวิถีอิสลาม

           หัวข้อต่อมา “อิสลามกับความรุนแรง” อาจารย์สุชาติ ได้ยกตัวอย่างบทสัมภาษณ์เรื่อง “อิสลามกับผู้ก่อการร้าย?” ของ โอลิวิเย รอย (Olivier Roy) นักวิชาการชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเชี่ยวชาญในการศึกษากลุ่มสุดโต่งที่นิยมใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ในหลายภูมิภาค ผู้เขียนเห็นว่าข้อคิดของรอยช่วยให้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้นในเรื่องปรากฏการณ์ความรุนแรงต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงความเชื่อมโยงระหว่างอิสลามและลัทธิก่อการร้าย

           หลังจากที่ผู้เขียนได้ทำให้เราเข้าใจถึงหลักความคิดและกรอบคำสอนของศาสนาอิสลามแล้ว ผู้เขียนยังได้กล่าวถึงส่วนที่เป็นมิติของชีวิต ที่แสดงในเห็นถึงความสัมพันธ์กันระหว่างสองด้าน คือ จริยธรรม (ethic) และ ศีลธรรม (moral) โดยผู้เขียนได้เลือกใช้ประเด็นครอบครัวมาเป็นเครื่องมือเพื่ออธิบายการเชื่อมโยงระหว่างสองด้านนี้

           ในหัวข้อ “อิสลามกับครอบครัว” ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายความหมายและความสำคัญของศาสนาอิสลามกับความเปลี่ยนแปลงของครอบครัวในหลายด้าน และได้เน้นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันศาสนากับความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ซึ่งบทบาทของสถาบันครอบครัวนั้น เป็นสิ่งสำคัญในการชี้นำให้ลูกหลานได้ก้าวเดินไปสู่อนาคตที่มั่นคง

           ในตอนท้ายของหนังสือ ผู้เขียนได้กล่าวถึงหัวข้อ “อิสลามกับสตรี” แสดงให้เห็นถึงความคิดและความเชื่อของผู้คนที่มีต่อศาสนาอิสลามในประเด็นเรื่อง ผู้หญิง โดยชี้ให้เห็นถึงคำสอนของศาสนาอิสลามที่ให้ความหมายและความสำคัญต่อบทบาทของผู้หญิง และไม่ยอมรับความรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายเด็กและผู้หญิง และเน้นให้เห็นถึงบทบาทของผู้หญิงในการเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

           เมื่อผู้อ่านได้อ่านหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มนี้จบแล้ว หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะเข้าใจในศาสนาอิสลามและความเป็นมุสลิมได้มากขึ้น และนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุขต่อไป

           หนังสือเรื่องนี้รวมถึงหนังสือที่ว่าด้วยอคติทางวัฒนธรรม มีพร้อมให้บริการที่ห้องสมุด ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ห้องสมุด หรือติดต่อเพื่อขอยืมหนังสือผ่านทาง Facebook Fanpage: ห้องสมุด ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร – SAC Library และ Line: @sac-anthropology

 

วันและเวลาให้บริการ

ห้องสมุด ชั้น 7-8 วันจันทร์–ศุกร์ : 08.30–16.30 น. และวันเสาร์ : 09.00–16.00 น.

ห้องสมุดสุข กาย ใจ วันจันทร์–ศุกร์ : 08.00-18.00 น. และวันเสาร์ : 09.00–17.00 น.

 

 

ผู้เขียน

ปริยฉัตร เวทยนุกูล

บรรณารักษ์ ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

 

ป้ายกำกับ อคติทางวัฒนธรรมและความรุนแรง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Share