
เสวนาออนไลน์ Series Anthropology in Focus EP.10 หัวข้อ เมื่อ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถูกแปลใหม่ในรอบ 100 ปี! เราได้อะไร?
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เชิญผู้สนใจฟังเสวนาออนไลน์
Series Anthropology in Focus EP.10
หัวข้อ เมื่อ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถูกแปลใหม่ในรอบ 100 ปี! เราได้อะไร?
หนังสือ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่ผู้สนใจประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา “ต้องอ่าน” เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่แปลมาจากเอกสารภาษาพม่าชื่อ โยดะยา-ยาซะวีง (ယိုးဒယားရာဇဝင်) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันในแวดวงวิชาการว่า เนื้อหาถูกเรียบเรียงขึ้นจาก “คำให้การ” ของเชลยศึกอยุธยา หลังเหตุการณ์เสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 แต่กระนั้น ผู้ที่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ย่อมพบว่า เรื่องราวในเล่มมีลักษณะผสมปนเปกันระหว่าง “ตำนาน” กับ “พงศาวดาร” จนอาจเกิดคำถามว่า เราควรเชื่อถือข้อมูลส่วนใด และควรอ่านมันในฐานะอะไร?
โยดะยา-ยาซะวีง ถูกแปลเป็น “คำให้การชาวกรุงเก่า” เมื่อ พ.ศ. 2455 นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 113 ปีมาแล้ว และในระยะเวลาที่เปลี่ยนผ่านมากว่าศตวรรษนั้น โลกทัศน์ในการแปลเอกสารประวัติศาสตร์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก งานแปลรุ่นก่อน มักเน้นการขัดเกลาเนื้อหาให้ราบรื่น อ่านง่าย และสนุกเหมือนเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ ขณะที่งานแปลในปัจจุบัน มุ่งเน้นความถูกต้องตามต้นฉบับ โดยหลีกเลี่ยงการตัดทอนหรือเสริมแต่ง ทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าทางวิชาการให้มากที่สุด
ด้วยเหตุแห่งความต่างยุคต่างสมัยนี้เอง ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) กระทรวงวัฒนธรรม จึงริเริ่มโครงการแปล โยดะยา-ยาซะวีง ขึ้นใหม่ในรอบกว่าศตวรรษ เพื่อจัดทำ “เอกสารอ้างอิงทางวิชาการ” สำหรับใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีของไทย โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิรัช นิยมธรรม เป็นผู้แปล และ ดร.ตรงใจ หุตางกูร นักวิจัยด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีของ ศมส. เป็นบรรณาธิการ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า พงศาวดารโยทยา: บทแปลคำให้การและเอกสารของชาวกรุงเก่า ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้
ในการนี้ ศมส. จึงขอเชิญท่านผู้ใฝ่รู้ใฝ่ใจศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา เข้าร่วมรับฟังการเสวนาเรียกน้ำย่อยในหัวข้อ “เมื่อ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถูกแปลใหม่ในรอบ 100 ปี! เราได้อะไร?” เพื่อมาร่วมกันคลี่คลายความเข้าใจผิดของการตั้งชื่อหนังสือชุด “คำให้การ” อันได้แก่ “คำให้การชาวกรุงเก่า” “คำให้การขุนหลวงหาวัด” และ “คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม” และความเข้าใจที่ถูกต้องนั้น คืออะไร?
ผู้ร่วมเสวนา
ดร.ตรงใจ หุตางกูร นักวิจัย ฝ่ายคลังข้อมูลวิชาการ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
ดำเนินการเสวนาโดย
นัทกฤษ ยอดราช นักวิชาการอิสระ
วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568
เวลา 13.00-15.00 น.
รับชมถ่ายทอดสดทาง facebook Fanpage: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร-SAC
เสวนาออนไลน์ เมื่อ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถูกแปลใหม่ในรอบ 100 ปี! เราได้อะไร?
หนังสือ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่ผู้สนใจประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา “ต้องอ่าน” เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่แปลมาจากเอกสารภาษาพม่าชื่อ โยดะยา-ยาซะวีง (ယိုးဒယားရာဇဝင်) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันในแวดวงวิชาการว่า เนื้อหาถูกเรียบเรียงขึ้นจาก “คำให้การ” ของเชลยศึกอยุธยา หลังเหตุการณ์เสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 แต่กระนั้น ผู้ที่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ย่อมพบว่า เรื่องราวในเล่มมีลักษณะผสมปนเปกันระหว่าง “ตำนาน” กับ “พงศาวดาร” จนอาจเกิดคำถามว่า เราควรเชื่อถือข้อมูลส่วนใด และควรอ่านมันในฐานะอะไร?
โยดะยา-ยาซะวีง ถูกแปลเป็น “คำให้การชาวกรุงเก่า” เมื่อ พ.ศ. 2455 นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 113 ปีมาแล้ว และในระยะเวลาที่เปลี่ยนผ่านมากว่าศตวรรษนั้น โลกทัศน์ในการแปลเอกสารประวัติศาสตร์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก งานแปลรุ่นก่อน มักเน้นการขัดเกลาเนื้อหาให้ราบรื่น อ่านง่าย และสนุกเหมือนเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ ขณะที่งานแปลในปัจจุบัน มุ่งเน้นความถูกต้องตามต้นฉบับ โดยหลีกเลี่ยงการตัดทอนหรือเสริมแต่ง ทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าทางวิชาการให้มากที่สุด
ด้วยเหตุแห่งความต่างยุคต่างสมัยนี้เอง ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) กระทรวงวัฒนธรรม จึงริเริ่มโครงการแปล โยดะยา-ยาซะวีง ขึ้นใหม่ในรอบกว่าศตวรรษ เพื่อจัดทำ “เอกสารอ้างอิงทางวิชาการ” สำหรับใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีของไทย โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิรัช นิยมธรรม เป็นผู้แปล และ ดร.ตรงใจ หุตางกูร นักวิจัยด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีของ ศมส. เป็นบรรณาธิการ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า พงศาวดารโยทยา: บทแปลคำให้การและเอกสารของชาวกรุงเก่า ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้
ในการนี้ ศมส. จึงขอเชิญท่านผู้ใฝ่รู้ใฝ่ใจศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา เข้าร่วมรับฟังการเสวนาเรียกน้ำย่อยในหัวข้อ “เมื่อ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ถูกแปลใหม่ในรอบ 100 ปี! เราได้อะไร?” เพื่อมาร่วมกันคลี่คลายความเข้าใจผิดของการตั้งชื่อหนังสือชุด “คำให้การ” อันได้แก่ “คำให้การชาวกรุงเก่า” “คำให้การขุนหลวงหาวัด” และ “คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม” และความเข้าใจที่ถูกต้องนั้น คืออะไร?
ผู้ร่วมเสวนา
ดร.ตรงใจ หุตางกูร นักวิจัย ฝ่ายคลังข้อมูลวิชาการ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
ดำเนินการเสวนาโดย
นัทกฤษ ยอดราช นักวิชาการอิสระ