Description
Published year :
2559
Author :
นิธิ เอียวศรีวงศ์
Book Number :
DS571 .น632 2559
Collection :
Books (7th floor)
Link :
ท่ามกลางความหลากหลายทางชาติพันธุ์และภาษา ความสงสัยว่า คนไทยมาจากไหน? เป็นข้อถกเถียงในแวดวงนักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์ และมานุษยวิทยา ที่พยายามสืบหาและพยายามจะสร้างความกระจ่าง
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักประวัติศาสตร์คนสำคัญของไทย อดีตอาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนักคิด นักเขียนผู้ทรงอิทธิพลต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย1
ในหนังสือ “ความไม่ไทยของคนไทย” เป็นหนังสือที่เกิดจากการรวบรวมบทความที่ว่าด้วยความเป็นไทยของอาจารย์นิธิเข้าไว้ด้วยกัน 4 บทความ ได้แก่
ที่สะท้อนให้เห็นบริบททางการเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา ความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์ไท - ไต และกลุ่มชาติพันธุ์ไทย ที่ส่งผลต่อประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย ผ่านหนังสือที่มีชื่อว่าความไม่ไทยของคนไทย
“นาน้อยอ้อยหนู” ชื่อสถานที่ในตำนานที่มีอยู่จริง
นาน้อยอ้อยหนู ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม เป็นจุดกำเนิด “ตำนานการเกิดมนุษย์”ของคนในอุษาคเนย์ ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวกับอาจารย์ยุกติ มุกดาวิจิตร สถานที่จริงในตำนานที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ไปสัมผัส มีภูมิทัศน์เป็นแอ่งหินที่สลับซับซ้อนร่วมกับมีทางน้ำไหลลงสู่นาน้อยอ้อยหนู ที่ชวนให้เข้าใจคำตอบถึงต้นเหตุที่ทำให้นาน้อยอ้อยหนูกลายเป็นตำนาน “น้ำเต้าปุง” ซึ่งผู้เขียนให้ความเห็นว่าเป็นเพราะ
“น้ำเต้านั้นมีเมล็ดพันธุ์มาก หากเป็นคนคงออกมาจากรูที่จี้ไว้เหมือนกับสายน้ำ”2
นอกจากนี้ ตำนานยังส่งผลสัมพันธ์ต่อความเชื่อเรื่องเชื้อสายการเกิดของมนุษย์ในกลุ่มชาติพันธุ์แถบนี้ โดยการแบ่งงออกเป็นสถานะ “คนธรรมดาทั่วไป” และ “เจ้า” คือผู้ที่ถูกส่งลงมาโดยตรง ไม่ได้มีกำเนิดจากน้ำเต้าปุง การอพยพเคลื่อนย้ายตามที่ราบหุบเขาทำให้ตำนานนี้แผ่ขยายมากยิ่งขึ้น และยังส่งผลต่อระบบการจัดองค์กรทางสังคมของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ไต
นอกจากตำนานที่ส่งผลต่อระบบการจัดองค์กรทางสังคมของกลุ่มชาติพันธุ์ไท–ไตแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ พื้นที่ราบหุบเขา ZOMIA ในทัศนะของผู้เขียนถือเป็นกระบวนการการสร้างตัวตนของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ไต และแผ่ขยายมาสู่การเป็นศูนย์กลางในลุ่มน้ำขนาดใหญ่ จนกลายเป็นฐานอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง เหตุเพราะว่า “กระบวนการทำนาดำ” ที่ทำให้ผลิตข้าวได้มาก ช่วยลดการอพยพเคลื่อนย้ายของกลุ่มชาติพันธุ์ การทำนาดำทำให้เกิดการค้าทางไกล และทำให้คนกลุ่มชาติพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่กลุ่มชาติพันธุ์ไท ไต เริ่มอพยพเข้ามา เพื่อกลืนกลายตัวตนให้เป็นคนกลุ่มชาติพันธุ์ไท–ไต เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง “การค้าทางไกลเชื่อมโยงกับเมืองท่า และการแผ่ขยายของพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์” คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้การขยายเข้าสู่เป็นศูนย์กลางในลุ่มน้ำขนาดใหญ่ ปัจจัยทางการค้าโดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน เมื่อภาษาไท-ไต เป็นภาษากลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารจึงทำให้กลุ่มชาติพันธุ์อื่นหันมาพูดภาษาไท–ไต ปัจจัยทางศาสนาทำให้ภาษาไท-ไต ยิ่งแผ่ขยายมากยิ่งขึ้น เมื่อผู้เผยแพร่ทางศาสนาใช้ภาษาไท-ไต ผ่านการเทศน์ การทำพิธี ตลอดจนนิทานชาดก ซึ่งทำให้ประชาชนไม่ว่าจะกลุ่มชาติพันธุ์ใดก็เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมนี้
คนไทยมาจากโน่นด้วย และคนไทยอยู่ที่นี่ด้วย
ในบทความนี้ ผู้เขียนใช้อ้างอิงจากหนังสือ From Lawa to Mon, from Saa’ to Thai ของกองโดมินาส์ ที่อธิบายสาเหตุที่ทำให้คนไทยมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ จากประเด็นการขยายอำนาจทางการเมือง ในทัศนะที่ว่า “คนไทย” จากตอนใต้ของจีนเข้าไปยึดครองจากกลุ่มชนพื้นเมืองเดิมในดินแดนอุษาคเนย์ โดยการรบและการแต่งงานกับลูกสาวผู้นำชนพื้นเมือง ทำให้คนไทยถืออำนาจเป็นใหญ่กว่าชนพื้นเมือง ชนพื้นเมืองจึงกลืนกลายตัวเองให้เป็นคนไทยเพื่อไม่ให้ถูกกดขี่ กลืนกลายภาษาและวัฒนธรรม เพื่อให้ได้สิทธิ์อย่างคนไทย เกิดการผสมปนเปกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ “การกลืนกลายให้เป็นไทยจึงถูกกระทำอย่างเข้มข้นขึ้น” และทำให้คนประชากรของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยขยายใหญ่มากยิ่งขึ้น
คนไทยหลายเผ่าพันธุ์ 3,000 ปี ในสุวรรณภูมิ
ผู้เขียนได้เสนอแนวคิดของการทลายกรอบความคิดของความเป็นชาติไทย ที่สร้างความสับสนของ “คนไทย” คือ คำว่า เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ และอัตลักษณ์ ซึ่งเป็นแนวคิดของฝรั่งในศตวรรษที่ 19 ที่ผูกโยงกันอยู่ โดยไม่สามารถใช้คุณสมบัติทางชีววิทยามาจำแนกได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงคำสมมุติ ในทัศนะของผู้เขียน “รากเหง้าของคนไทยที่แท้จริงคือ ความหลากหลายทางชาติพันธุ์” มีความเป็นพลวัต ทำให้เห็นบทบาทของกลุ่มคนหลายกลุ่มในสังคมไทย ที่มาจากการประสานความหลากหลายจากความสัมพันธ์ทางการค้า โดยเฉพาะจีน และอินเดีย รวมถึงการเผยแพร่พระพุทธศาสนาช่วยประสานความหลากหลายนี้เข้าด้วยกัน
ข้อเสนอสังเขป ประวัติศาสตร์แห่งชาติที่ต้องถูกทบทวน
ความหลากหลายของชาติพันธุ์ในประเทศไทย ที่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางสถานะสังคม หากจะศึกษาประวัติศาสตร์ไทยจึงจำเป็นต้องศึกษาประวัติศาสตร์ของอุษาคเนย์ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการอพยพเคลื่อนย้ายของกลุ่มชาติพันธุ์ การค้า และการเมือง โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับอารยธรรมใหญ่อย่างจีน และอินเดีย ตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ จึงจะทำให้เห็นความสัมพันธ์ของ “คนไทย” ผู้มีความมั่งคั่งทางชาติพันธุ์ในดินแดนอุษาคเนย์
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นตัวแทนเพื่ออธิบาย ความเป็นมา และความสำคัญของประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย ผ่านการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และศาสนา จากหลักฐาน เพื่อให้เข้าใจ “รากเหง้าของคนไทย” เพราะพื้นฐานของคนไทย คือ “ความหลากหลายทางชาติพันธุ์”
Position :
บรรณารักษณ์
Education :
กำลังศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
Experience :
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre Library
20 Baromaratchachonnani Rd, Taling Chan, Bangkok 10170
Tel. +662-880-9429 Ext. 3702 - 4 Fax. +662-434-6254 E-mail. library@sac.or.th
![]() |
![]() |
SAC Library (8th Floor)
Mon-Fri : 8:30 am – 4:30 pm
Saturday: 9:00 am – 4:00 pm
SukKaiChai Library
Mon-Fri : 8:00 am – 18:00 pm
Saturday: 8:00 am – 17:00 pm
The library will be closed on public holidays and on the dates announced by the government.