หมวดใหญ่ : วรรณกรรม
หมวดหมู่ย่อย : นิราศ
เขียนโดย สุนทรภู่ และนายมี | วันที่เผยแพร่เอกสาร 17/12/2504
ผู้เข้าชม 3750 | จำนวนดาวน์โหลด 14
คะแนนสื่อ
วรรณคดีบางเรื่อง ของสุนทรภู่และนายมี
กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา, บทเห่กล่อมพระบรรทม, นิราศพระแท่นดงรัง, นิราศสุพรรณ, นิราศฉลาง, นิราศเดือน
สุนทรภู่, นายมี
2504
บริษัท คณะช่าง จำกัด
พระนคร
นิราศ
นิราศ, วรรณกรรม, หนังสืออนุสรณ์งานศพ
วรรณคดีบางเรื่องของสุนทรภู่และนายมี. พระนคร : บริษัทคณะช่าง จำกัด, 2504. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางศรฤทธิ์รณชัย (มาลัย ทศานนท์) 17 ธันวาคม 2504)
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
วรรณคดีบางเรื่อง ของสุนทรภู่และนายมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสรนั้น ได้รวบรวมบทกลอนต่างๆ มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือ ดังนี้ กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา และบทเห่กล่อมพระบรรทม ของสุนทรภู่ และของนายมี คือ นิราศพระแท่นดงรัง นิราศสุพรรณ นิราศฉลาง และนิราศเดือน --------
กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา ของสุนทรภู่ แต่งด้วยกาพย์ยานี 11 กล่าวถึง พระไชยสุริยาเป็นพระราชาครองเมืองสาวะถี (สาวัตถี) มีมเหสีชื่อว่าสุมาลี บ้านเมืองอุดมสมบูรณ์ มีพ่อค้าต่างเมืองมาค้าขาย ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาพวกขุนนางผู้ใหญ่และข้าราชบริพารพากันประพฤติผิด ลุ่มหลงในกามคุณและอบายมุขต่าง ๆ ผู้มีอำนาจกดขี่ข่มเหงราษฎรจนเดือดร้อนกันไปทั่ว การปกครองขาดความยุติธรรม บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ขาดเสถียรภาพ ในที่สุดเกิดน้ำป่าไหลท่วมบ้านเมืองทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ผู้ที่รอดชีวิตก็หนีออกจากเมืองไปหมด พระไชยสุริยาพามเหสีและบริวารพร้อมเสบียงลงเรือสำเภาหนีออกจากเมือง เรือแตกเพราะถูกพายุ บริวารทั้งหลายพลัดไปหมด พระไชยสุริยาและนางสุมาลีขึ้นฝั่งได้พากันรอนแรมไปในป่า ตกทุกข์ได้ยากอยู่หลายวัน พระดาบสรูปหนึ่งเข้าฌานเห็นทั้งสองพระองค์เร่ร่อนอยู่ในป่าก็สงสาร เพราะทราบว่าพระไชยสุริยาเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่ต้องเคราะห์ร้ายเช่นนี้เพราะหลงเชื่ออำมาตย์ที่ฉ้อฉล พระดาบสจึงเทศนาโปรดทั้งสององค์ให้ศรัทธาถือเพศเป็นฤษีบำเพ็ญธรรมอย่างเคร่งครัดจนได้ไปเสวยสุขในสวรรค์
อ้างอิงจาก http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=133
------------------
บทเห่กล่อมพระบรรทม ของสุนทรภู่ คือบทเห่กล่อมสำหรับเจ้านายที่ทรงพระเยาว์ ใช้เวลาไกวพระอู่ให้บรรทม สุนทรภู่นำเนื้อความจากเรื่องในวรรณคดีบ้าง เรื่องตำนานบ้างมาแต่งเป็นเนื้อร้องสำหรับเห่เป็นทำนองขับกล่อม แต่งเป็นคำประพันธ์คล้ายกาพย์ยานี 11 แต่จำนวนคำไม่สม่ำเสมอ เมื่อใช้สำหรับขับร้องย่อมมีการเอื้อนการขับทำนองเพลงทำให้จังหวะของบทประพันธ์กลมกลืนกันอย่างลงตัว ได้แก่ "เรื่องจับระบำ" โดยนำเนื้อความจากตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าและความเชื่อเรื่องการเกิดฟ้าแลบฟ้าร้องในฤดูฝนมาแต่ง "เรื่องกากี" ตอนพญาครุฑลักพานางกากีอุ้มไปวิมานฉิมพลี ระหว่างทางบินผ่านภูเขาสัตภัณฑ์ ทะเลสีทันดร และป่าหิมพานต์ พญาครุฑจึงชี้ชวนให้นางชม "เรื่องพระอภัยมณี" บทเห่แบ่งเป็น 9 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ศรีสุวรรณคร่ำครวญถึงนางเกษราด้วยความรักที่ยังไม่สมหวัง เพ้อฝันไปว่าจะลักพานางลงเรือไปเที่ยวชมทะเลให้สำราญใจ ตอนที่ 2 นางสุวรรณมาลีบวชเป็นดาบสินี พร้อมทั้งสินสมุทรและอรุณรัศมีซึ่งร่วมบวชด้วย ทั้งสามองค์นั่งอยู่หน้ากุฏิชมธรรมชาติอันมีสัตว์ต่าง ๆ และดอกไม้นานาพรรณรอบบริเวณกุฏิ ตอนที่ 3 และตอนที่ 4 ต่อเนื่องกัน สินสมุทรและอรุณรัศมีซึ่งบวชอยู่กับนางสุวรรณมาลี พูดเล่นเจรจากันตามประสาเด็กจนกระทั่งหลับไป จากนั้นกล่าวถึงนางอรุณรัศมีนักบวชน้อยที่ช่างซักถาม ให้ภาพเด็กที่ทำตามผู้ใหญ่โดยที่เด็กเองก็ไม่เข้าใจการกระทำนั้น ตอนที่ 5 นางละเวงหลงป่าทรงม้าตามลำพัง บรรยายภูมิประเทศในสายตาของผู้ที่ละล้าละลังด้วยความไม่รู้จักทิศทาง ตอนที่ 6, 7, 8, และ 9 มีเนื้อความต่อเนื่องกัน เริ่มตั้งแต่พระอภัยมณีพยายามที่จะเข้าไปหานางละเวงซึ่งอยู่ในรถทรง แต่นางแสร้งทำเป็นป่วยและนอนหลับ พระอภัยมณีจึงได้แต่รำพึงรำพันคร่ำครวญถึงนางอยู่ข้าง ๆ รถทรงนั้น นางละเวงได้ยินทุกถ้อยคำจึงนึกเห็นใจพระอภัยมณี "เรื่องโคบุตร" พระโคบุตรหลงรักนางอำพันมาลา จึงเขียนเพลงยาวใส่ใบตองให้นกขุนทองนำไปให้นาง อ้างอิงจาก http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=17
นิราศพระแท่นดงรัง นายมีได้บรรรยายเส้นทางการเดินทางจากพระนครไปนมัสการพระแท่นดงรังขณะที่บวชเป็นพระภิกษุ ในเทศกาลประจำปี ซึ่งอยู่ในราว 8 ค่ำ – 15 ค่ำ เดือน 4 พ.ศ. 2379 อ้างอิงจาก http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=134 -----------
นิราศสุพรรณ หมื่นพรหมสมพัตรสรแต่งนิราศเรื่องนี้ในคราวที่ต้องเดินทางไปเก็บอากรที่เมืองสุพรรณบุรี เมื่อปีมะโรง ฉศก นิราศเรื่องนี้ไม่เน้นการคร่ำครวญรำพันถึงความรักและการจากหญิงอันเป็นที่รัก เนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวถึงสถานที่ ตำนานสถานที่บางแห่ง สภาพธรรมชาติ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตามเส้นทางที่ล่องเรือผ่าน และเมื่อเดินทางถึงเมืองสุพรรณบุรีก็กล่าวถึงการทำมาหากิน วิถีชีวิต สภาพเมืองสุพรรณบุรี วิธีการเก็บภาษีอากร นอกจากสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมและเศรษฐกิจแล้ว ยังมีการแทรกคติสอนใจด้วยสำนวนภาษาที่ไพเราะ และการเปรียบเทียบที่ลึกซึ้ง อ้างอิงจาก http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=262 ----------
นิราศฉลาง น่าจะหมายถึงนิราศถลาง เป็นวรรณคดีนิราศ แก่นของเรื่องอยู่ที่การรำพันถึงความรัก ความอาลัยและความทุกข์ร้อนของกวีที่ต้องจากนางอันเป็นที่รัก มีบทพรรณนาความรักความคิดถึงตลอดทั้งเรื่อง แม้กระนั้นกวีก็ยังได้บันทึกภาพชีวิตชาวบ้านและภูมิประเทศตามรายทางไว้อย่างน่าสนใจ อ้างอิงจาก http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=76 ----------
นิราศเดือน นายมีพรรณนาถึงความโศกเศร้าของกวีที่ไม่สมหวังในรัก โดยกล่าวเชื่อมโยงความรู้สึกของกวีที่มีต่อนางที่รักกับวัฒนธรรมประเพณีที่ปฏิบัติกันในแต่ละเดือน รวมทั้งเหตุการณ์ที่กวีได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่เดือนห้าเรียงลำดับตามเดือนไปจนถึงเดือนสี่เป็นครบรอบปีหนึ่ง ในเดือนห้าเป็นปีใหม่ไทยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีประเพณีสำคัญคือ ประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น อ้างอิงจาก http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=62 ---------
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดเอกสาร เข้าสู่ระบบ *
ไฟล์ : 09-nirat-suntonphulaenaimee.pdf
คำอธิบาย : 09-nirat-suntonphulaenaimee
ขนาดไฟล์ : 21.91 MB
ดาวน์โหลด : 14