เขียนโดย Durand, Marie, 1715-1776 | วันที่เผยแพร่เอกสาร 01/01/2513
ผู้เข้าชม 1613 | จำนวนดาวน์โหลด 0
คะแนนสื่อ
Le temple de Po Romé à Phanrang
Durand, Marie, 1715-1776
ไทย
ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
E.-M. Durand. (Année 1903). temple de Po Romé à Phanrang, Le. Bulletin de l'Ecole française d'Extrême-Orient. Volume 3 Numéro 3 pp. 597-603
ดูเอกสารต้นฉบับจาก www.persee.fr
Le temple de Po Romé à Phanrang Par le R.P.E.-M. Durand, missionnaire apostolique
สรุปความโดย ดร.เสาวนิต รังสิยานนท์
หอจาม Po Romé อยู่ที่หมู่บ้าน Palei Thuön ชื่อทางราชการคือ Hậu Sanh แขวง (canton) Hữu Ðức ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหุบเขา Phanrang วัด Po Romé อยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ สูงประมาณ 50 เมตร ได้รับการดัดแปลงด้วยฝีมือมนุษย์ หอกลางหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ยกพื้นสูง 1.90 เมตร เช่นเดียวกับวัดของจามทั่วไป มี 4 ชั้น ชั้นที่ 1 มีประตูทางเข้า 1 บาน และประตูหลอก 3 บาน อยู่ตรงกับประตูหลอก 4 บานของ แต่ละชั้นที่อยู่เหนือขึ้นไป เหนือประตูทุกบานมีหน้าบันทำด้วยอิฐ แกะสลักลวดลายดอกไม้ ล้อมรอบรูปแกะสลักคนผู้ชายสวมหมวกคล้ายหมากเปอร์เชียพนมมือ ในท่าสวดมนต์ รูปแกะสลักที่อยู่ตรงกลางเป็นรูปเดียวที่ชำรุด สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโหรหลวงของกษัตริย์ Po Romé ที่มุมแต่ละมุมของชั้นที่ 1-3 มีระฆังเล็ก ๆ รูปโดมที่ชาย 4 ชาย ที่ยอดของหอ มีแท่งหินทุกด้านสลักอักขระศักดิ์สิทธิ์ว่า “โอม” ประตูทางเข้าบานเดียวนั้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จากประตูมีห้องโถงแคบ ๆ และมีช่องให้อากาศและแสงสว่างลอดเข้าไปในหอ จากห้องโถงมีระเบียงเล็ก ๆ และบันได 2-3 ขั้น ด้านหน้าเป็นที่จัดงานเลี้ยง (saʼn puyak) เป็นศาลาไม้หลังคาจาก ในแนวเดียวกันนี้มีห้องพักผ่อน (saʼn döh) แต่ปัจจุบันเหลือเพียงกำแพง 4 ด้าน ที่มุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ มีสถูปบรรจุรูปปั้นผู้หญิง ที่หน้าอกมีจารึก 5 บรรทัด มุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือ มีหินแกรนิตแท่งสี่เหลี่ยมแต่ละด้านมีความกว้างเท่ากัน เป็นอนุสาวรีย์ของ ćayà (jaya?) ทางเหนือมีแผ่นหินบนหลุมฝังศพ ภายในหอจาม (kulan) มีห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสไร้เครื่องตกแต่งใด ๆ เพียงห้องเดียว ตรงกลางมียกพื้นประดับด้วยลวยลายแกะสลัก แนวกลางเป็นแท่งหินเกลี้ยง บนแท่นหินเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นกษัตริย์ Po Romé มีเครื่องประดับคือกำไลเกลี้ยง และกระบังหน้า ตุ้มหูยาวถึงไหล่ สร้อยพระศอเป็นรูปดอกไม้ 4 กลีบขนาดเท่า ๆ กันร้อยเป็นสาย ตัวรูปปั้นแกะจากแท่งหิน แกรนิต สูง 1.16 เมตร กว้าง 0.88 เมตร มีแขนเพิ่มอีก 6 ข้างติดไว้ที่หลังรูปปั้น ทางขวา 3 ข้าง ข้างที่อยู่ต่ำสุดถือมีดปลายแหลม ข้างที่อยู่ตรงกลางถือดอกบัวตูม ข้างที่อยู่บนสุดถือหวีแบบจาม ทางซ้าย 3 ข้าง ถือกริช 3 ง่าม ดาบใบกว้างด้ามเล็ก และถ้วยบรรจุน้ำมันมะพร้าว รอบรูปปั้นแกะสลักเป็นรูปหอยสังข์ 8 อัน และดอกไม้ ซึ่งเห็นได้จากลวดลายประดับแบบจามทั่วไป ข้างรูปปั้นแต่ละข้างมีวัวนนทิหมอบอยู่ ทางขวาของรูปปั้น Po Romé มีอนุสาวรีย์ราชินี Sončan ในห้องโถงแคบ ๆ มี “lamov kapil” 2 ตัว อยู่ในท่าสบาย หันหน้าไปทางประตูที่อยู่ด้านใน ที่บานประตูมีร่องรอยลวดลายทองแบบโบราณ ประตูที่อยู่ด้านนอกประกอบด้วย เสา 2 ต้น ซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไป พระราชประวัติของกษัตริย์ Po Romé จากประวัติการสืบราชสันตติวงศ์ พระองค์ครองราชย์ระหว่างปี 1627-1651 ก่อนคริสตศักราช มีมเหสี 3 องค์คือ Po Bià Sančan หรือ Sančih ราชธิดา กษัตริย์ Po Mötahā (1622-1627) ถูกถอดจากตำแหน่งราชินี เพราะไม่ยอมให้คำสัญญาว่าจะเข้ากองไฟเผาพระศพพระสวามี องค์ที่ 2 Po Biā Sučih ซึ่งมีอนุสาวรีย์อยู่เคียงข้างรูปปั้นกษัตริย์ Po Romé ยอมเผาตัวตายในกองไฟเผาพระศพพระสวามี องค์ที่ 3 Po Biā Ut ลูกสาวขุนนางจากโคชินจีน เป็นต้นเหตุให้ชาวอันนัมบุกจัมปา มีรูปปั้นอยู่ที่ Hamū Binh ในหุบเขา Phanrong สำหรับพระประวัติของ Po Romé M. Aymonier ได้รวบรวมไว้แล้ว หาอ่านได้จาก Excursions et Reconnaissances n˚ 32 รูปปั้นของ Po Biā Sučih ทำด้วยหินสีฟ้า ข้าง ๆ มีรูปปั้นนางกำนัล 2 คน ที่หน้าอกของรูปปั้นมีจารึกบอกว่าพระนางไม่ยอมเข้าอยู่ในกองเพลิงเผาพระศพพระสวามี ภาษาที่ใช้จารึกเป็นภาษาสมัยใหม่ ส่วนตัวอักษรอยู่ระหว่างช่วงต่อของสันสกฤตและอักษรจามแบบเก่า ประมาณปี ค.ศ. 1831-1835 หอนี้ถูกชาวอันนัมวางเพลิง ทำให้ประตู เสา และที่ประดิษฐานรูปปั้นของ Po Ganvōr Mantri ส่วนหนึ่งได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกับจารึกก็ได้ชำรุดไปมาก
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดเอกสาร เข้าสู่ระบบ *