ต่อเนื่องจากโครงการประกวดหนังสั้นทักษะวัฒนธรรมสำหรับเยาวชน “ขัดกันฉันมิตร” ปีที่ 1 (2560) เยาวชนได้มีโอกาสทำความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม สำรวจอคติ และภาพเหมารวมที่ส่งผลต่อ ทัศนคติในเชิงลบและการเลือกปฏิบัติที่มีต่อคนที่แตกต่าง รวมทั้งเรียนรู้ผลกระทบของสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่นับถือศาสนาต่างกัน ทำให้เปลี่ยนมุมมอง หรือทัศนะด้านลบบางอย่างที่เคยมี และเสริมทักษะให้เยาวชนทั้งด้านทักษะวัฒนธรรมและด้านการสื่อสารสาธารณะ มีส่วนร่วมในการสื่อสารมุมมองของเยาวชนต่อสาธารณะในประเด็นทักษะวัฒนธรรมและการอยู่ร่วมกับความขัดแย้งในภาคใต้ ผ่านกระบวนการการทำหนังสั้น ซึ่งโครงการประกวดฯ ในปีที่ 2 นี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาคี ได้แก่ ศูนย์ข่าวสารสันติภาพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สหภาพยุโรป (EU) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS)
ภาพยนตร์เรื่อง Between two Villages บอกเล่าเรื่องราวของคนใน Aldeia da Luz ซึ่งมีประชากรจำนวน 330 คน ที่จะต้องยายถิ่นฐานเนื่องจากการสร้างเขื่อน Alqueva ทางภาคใต้ของโปรตุเกส หมู่บ้านแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นมาทดแทน ตั้งอยู่ไม่กี่กิโลเมตรจากที่ตั้งเดิม ภาพยนตร์พยายามบอกเล่ากิจวัตรประจำวันของผู้คนใน Aldeia da Luz ที่รักษาขนบประเพณีไว้อย่างเข้มแข็ง และตั้งรับกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ในระหว่างกระบวนการสร้างบ้านใหม่ ภาพยนตร์แสดงให้เห็นถึงสัมพันธภาพระหว่างฝ่ายบ้านเมืองกับชาวบ้านในความ พยายามสร้างอัตลักษณ์ของหมู่บ้าน เราอาจเรียกสถานการณ์ของหมู่บ้าน Aldaia da Luz ว่าเป็นสังคมที่กำลังเปลี่ยนรูปไปจากเดิม
เมื่อ ค.ศ. 1958 ด้วยความช่วยเหลือของคนในครอบครัว Marshalls กลุ่ม Ju/'hoansi เดินทางกลับบ้านใน Nyae Nyae ภายหลัง 7 ปีของการเป็นแรงงานที่โดนกักขังในฟาร์มแห่งหนึ่ง หญิงม่ายผู้ซึ่งอดีตสามีหนีรอดจากฟาร์ม มีลูกกับชายอีกคนหนึ่ง เมื่อเธอเดินทางกลับถึง Nyae Nyae เธอและสามีคนเก่าเกิดมีปากเสียงอย่างรุนแรง ภาพยนตร์เรื่อง An Argument About a Marriage นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับการเพาะปลูกโดยนักลงทุนชาวยุโรปที่ส่งอิทธิพลต่อชีวิต ทางเศรษฐกิจและสังคมของคน Ju/'hoansi มากไปกว่านั้น นำไปสู่คำถามที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการแต่งงานและแรงงานของเจ้าสาวตามธรรมเนียม เครือญาติ รวมถึงข้อขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับกลุ่ม Ju/'hoansi นอกจากอารณ์ที่เกรียวกราดที่เราจะเห็นในภาพยนตร์ เรายังจะได้เห็นวิธีการแก้ปัญหาที่ป้องกันไม่ให้ความรุนแรงเกิดขึ้น
ในแถบเทือกเขาสูงของโคลัมเบียตอนเหนือ ชีกลุมไอกาอาศัยอยู่อย่างโดเดี่ยว และยังชีพด้วยการเพาะปลูกขนาดย่อม และเลี้ยงสัตว์จำนวนไม่มากนัก พวกเขาคิดอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นลููกหลานของชนเผ่ามายา ที่หนีจจากเหตุการณ์ความววุ่นวายและสงครามในช่วงยุคทองของอารยธรรมอเมริกา กลาง โดยหนีจากพื้นทหุบเขาห่างไกลของ Sierra Nevadas ในโคลัมเบีย พวก Ika ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความสูงในระดับ 5,000 - 15,000 ฟุต ในลักษณะที่เอื้อต่อการเคลื่อนย้ายประชากร ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะพึงพิงกับทักษะที่หลากหลาย ที่เป็นความชำนาญที่หาได้ยากยิ่ง แรงที่พวกเขาลงจะตอบสนองทั้งงานและความเชื่อ ซึ่งเขาเชื่อว่า สองสิ่งนี้เกี่ยวพันและจะสร้างความสมดุลย์ในชีวิต ทั้งกลางวันและกลางคืนมีความยาวนานและเต็มไปด้วยความยากลำบาก Mama Marco เป็นตัวแทนของกลุ่ม Ika ที่จะแสดงให้เห็นพลังของสรรพสิ่งที่สร้างสรรค์จากการลงมือทำ เขาเป็นทั้งชาวนาไร่ ผู้ครองเรือน และยังทำหน้าที่ในทางศาสนาอีกด้วย
Deep Hearts เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่อกลุ่มชน Bororo Fulani ซึ่งเป็นกลุ่มคนเร่ร่อนในแถบตอนกลางของประเทศไนเจอร์ ชื่อของภาพยนตร์มีนัยสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับความคิดและการวางตัวของผู้คนใน กลุ่มสังคม Deep Hearts อธิบายถึงพิธีกรรม Gerewol อันเป็นพิธีที่จัดขึ้นในฤดูฝน เมื่อสายตระกูล 2 สายมาประชันขันแน่ง เพื่อเลือกชาย โบโรโร ที่สมบูรณ์แบบที่สุด นั่นหมายถึงการพิจารณาความงดงามทั้งร่างกายและจิตใจ ผู้ชนะจะเลือกหญิงสาวของอีกสายตระกูลหนึ่ง และมีการโห่ร้องด้วยน้ำเสียงของความเป็น "วัวฉกรรจ์" ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นความพยายามในการตั้งคำถามจากพิธีกรรมของโบโรโร ที่มีต่อมนุษยชาติทั้งมวล
ชน Hamar อาศัยในพื้นที่แห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปีย พวกเขาอยู่อย่างโดดเดี่ยว และสภาพดังกล่าวนี้กลายเป็นเงื่อนไขและข้อจำกัดในการเคลื่อนที่ ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้ ส่งผลต่อการจัดระเบียบทางสังคมที่ไม่เหมือนใคร และสืบต่อมา วิถีชีวิตแบบฉบับดังกล่าวย้ำถึงสถานภาพของชายที่เหนือกว่า ชายชาว Hamar เป็นเหมือนนาย และหญิงเป็นเหมือนบ่าว ภาพยนตร์จึงไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นกิจกรรมทางสังคม แต่ยังถ่ายทอดความรู้สึกของอารมณ์และพฤติกรรมของความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ
เมื่อ ค.ศ. 1979 การปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่าน ผลักดันชาวยิวต้องออกเดินทางสู่สหรัฐอเมริกา และส่งผลให้ประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสองหมื่นห้าพันปีของพวกเขาบนดินแดน แห่งนี้มาถึงวาระสุดท้าย ความไม่แน่นอนในความปลอดภัย และความเกรงกลัวต่อประหัตประหารของกลุ่ม Khomeini อิสลามคลั่งศาสนา สารคดีเรื่องนี้กล่าวถึงชีวิตชาวยิว ผู้ไปตั้งถิ่นฐานใหม่ และรวมกลุ่มเครือญาติอย่างแนบแน่นที่ลอสแองเจลิส ครอบครัวชาวอิหร่านพูดถึงอดีตของพวกเขา เรื่องราวการอพยพด้วยเหตุความเกลียดชังจากบ้านเกิดเพื่อปกป้องอนาคตของลูก หลานของพวกเขา พวกเขายังบอกเล่าอุปสรรคและความยากลำบาก น้ำเสียงของพวกเขาแสดงความกลัวเกี่ยวกับเด็กๆ ที่กำลังเติมโตมาในสังคมต่างแดน และรับเอาวัฒนธรรมใหม่ ซึ่งไกลห่างจากรากเหง้าของตน ในอีกทางหนึ่ง ลูกหลานที่เติบใหญ่ กล่าวถึงความกดดันจากความคาดหวังของพ่อและแม่ ในอันที่จะคงไว้ซึ่งมรดกวัฒนธรรมยิวอิหร่าน และการสร้างความเป็นตัวเองในโลกใหม่ของสังคมอเมริกัน
First Contact เป็นหนังสารคดีที่สร้างขึ้นในปี 1983 โดย Bob Connolly และ Robinson Anderson เล่าถึงการค้นพบประชากรพื้นเมืองในพื้นที่สูงของนิวกินีในปี 1930 ในพื้นที่ที่คิดว่าไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีหนังสือที่เขียนขึ้นในชื่อเดียวกันและผู้เขียนเดียวกัน มีคนในภูมิภาคและสมาชิกพี่น้อง Leahy ที่ทำเหมืองทองที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เล่าขานเรื่องที่ไปพบมาผ่านภาพยนต์ที่ ถ่ายมาโดยสมาชิกที่ร่วมเดินทางและวิดีโอร่วมสมัยของภูมิประเทศของเกาะถูก เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Documentary Feature ด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานสำคัญเรื่องหนึ่งของ Jean Rouch เขาเองได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา การยืนหยัดเพื่อการคงอยู่และวิธีการสร้างภาพยนตร์ของเขาว่านำเสนอแต่ความ จริง แล้วคุณจะรู้ว่าคุณได้อยู่ใกล้กับความจริงของ Jean Rouch กับเพื่อนสนิทคือ Damouré และ Tallou Jean - André Fieschi ได้กำหนดตัวนักแสดงและวิธีการกำกับเพื่อสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับ Rouch โดยมี Jean Rouch เป็นตัวแสดงซึ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนสนิทชาวแอฟริกันทั้ง Damouré และ Tallou, ติดตามชมได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ของ Jean Rouch เป็นเรื่องราวในประเทศ กานา และไนเจอร์ซึ่งอยู่ทวีปอาฟริกา ภาพยนตร์มีความหลากหลายได้แก่ความเป็นอยู่ การเดินทาง ความรัก และความตาย การเรียนรู้และมิตรภาพ ประเพณีความเป็นอยู่ จัดเป็นข้อมูลที่ดีทางด้านมานุษยวิทยาและข้อมูลเชิงด้านประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์ในชุดนี้ประกอบด้วยดีวีดี จำนวน 4 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ 1. Cine – Trance, 2. Cine – Plaisir, 3. Cine – Meet และ 4. Cine - Rouch
ABOUT: The Films of Jean Rouch, a unique archive on Africa, gems for moviegoers, are also stories that depict simple stories - hunting, travel, love and death, the learning and friendship - to the universal. Some films are pure anthropological tradition, others humorous fiction.
Virtual borders (จินตบัญญัติ โดย มานู ลุกค์)
Virtual borders เป็นภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของผู้นำชาวอาข่าชื่อ Abaw Buseuv ที่ได้เดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมของชาวอาข่า มีการกระจายเสียงและส่งข้อมูลไปยังชาวอาข่าที่อยู่ในประเทศไทย อาข่าเป็นชนกลุ่มน้อยที่กระจายอยู่ทั่วไปในพื้นที่ชายแดนของห้าประเทศ ได้แก่ ไทย พม่า (เมียนมาร์), จีน, เวียดนาม และลาว นอกจาการชุมนุมแล้วภาพยนตร์ยังได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตและความเป็นอยู่ของอา ข่าด้วย