เผยแพร่ 01 ส.ค. 2563
กลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เรียกตัวเองว่า “ไต” นั้น อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่เอเชีย นับตั้งแต่ตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ตลอดแนวตอนใต้ของประเทศจีน ประเทศลาว ประเทศไทย ทางตอนเหนือของประเทศพม่าไปจนถึงแคว้นอัสสัมทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย ด้วยการกระจายตัวไปตั้งรกรากถิ่นฐานในพื้นที่แตกต่างกัน พวกเขาจึงมีชื่อเรียกมากมาย ตามประเทศและกลุ่มคนที่ตนอาศัยอยู่ร่วม คนไต แต่เดิมถูกเรียกหรือจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ ชาน (ฉาน) สยาม เสียม หรืออาหม ส่วนคำว่า “ไทใหญ่” นั้นพบว่าเป็นคำที่คนไทยในประเทศไทยเท่านั้นที่ใช้เรียกกลุ่มชาติพันธุ์นี้
อัตลักษณ์ร่วม ที่โดดเด่นของชาวไทใหญ่คือ ความศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อพุทธศาสนา โดยเฉพาะในการทำบุญทำทาน จนถึงกับมีคำกล่าวว่า ”อย่ากินอย่างม่าน (พม่า) อย่าตาน (ทำทาน) อย่างไท” เพราะคนไทใหญ่ให้ความสำคัญต่อการบำเพ็ญทานบารมี ใครทำทานให้กับวัดกับพุทธศาสนามาก ก็จะได้รับเกียรติได้รับการยกย่องจากสังคมของคนไทใหญ่ วิถีชีวิตของชาวไทใหญ่ตั้งแต่เกิดจนตายต่างผูกพันกับพระพุทธศาสนา
คู่มือแนะนำทรัพยากรสารสนเทศกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ในครั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ที่อาศัยในบริเวณภาคเหนือประเทศไทย และในบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงสังคมวัฒนธรรม วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่
อ้างอิงจาก
ฐานข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย. "กลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่" เข้าถึงได้จาก https://www.sac.or.th/databases/ethnic-groups/ethnicGroups/131
เรียงลำดับข้อมูลจากใหม่ไปเก่า | เรียงลำดับข้อมูลจากเก่าไปใหม่
Author
บุศรินทร์ เลิศชวลิตสกุล
Imprint
ไม่ระบุ
Collection
วารสารสังคมวิทยามานุษยวิทยา. ปีที่ 31, ฉบับที่ 2 (ก.ค./ธ.ค. 2555), หน้า 109-135 : ภาพประกอบ
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
บทความนี้กล่าวถึงวิถีอาหารของแรงงานไทใหญ่ที่เข้ามาประกอบอาชีพในจังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลยังคงรักษาอัตลักษณ์การประกอบอาหารของช่วไทใหญ่ไว้ด้วยการทำอาหารไทใหญ่กินเอง มีการเลือกซื้อวัตถุดิบของอาหารไทใหญ่ในตลาดนัดและผู้ค้าเร่ชาวไทใหญ่ โดยโดยเฉพาะถั่วเน่าซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารหลายอย่างเช่น น้ำพริก อาหารประเภทอุ๊บ และแกง ผู้ศึกษาสรุปว่า การสร้างความแตกต่างระหว่างอาหารไทใหญ่ อาหารไทย และอาหารเมือง สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบหนึ่งของการเมืองเชิงวัฒนธรรมที่รสชาติอาหารเข้ามามีบทบาทสำคัญในบางบริบท บางสถานการณ์ และในหลายระดับ
Author
สราวุธ รูปิน
Imprint
ไม่ระบุ
Collection
วารสารวิจิตรศิลป์ ปีที่ 3, ฉบับที่ 1 (Jan./Jun. 2555), หน้า 191-222 : ภาพประกอบ, แผนที่
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
บทความเรื่องนี้แปลจากเอกสารเรื่องประวัติความเป็นมาบ้านห้วยทราย เมื่อบ่อแก้ว สปป.ลาว โดย สุริยง ส.ห่าน และ โบ ห่าน ซึ่งกล่าวถึงเรื่องราวที่ชาวไทใหญ่เข้ามาอาศัยในบ้านห้วยทรายเพื่อทำการสำรวจและขุดหาแก้วหรือรัตนชาติ โดยเอกสารฉบับนี้เรียบเรียงขึ้นจากบันทึกของชาวไทใหญ่ที่ได้เดินทางเข้าไปสำรวจแก้วดังกล่าว นอกจากบันทึกเกี่ยวกับการเข้าไปค้นหาแก้วของชาวไทใหญ่แล้วนั้น ยังประกอบไปด้วยเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในช่วงก่อนการยึดครองของฝรั่งเศส ซึ่งหมู่บ้านห้วยทรายได้กลายเป็นพื้นที่กันชนระหว่างการแย่งชิงอำนาจระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Author
เจ้ายอดศึก.
Imprint
กรุงเทพฯ : สยามปริทัศน์, 2555
Collection
Books: DS530.8.ฉ6จ75 2555
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมบทความและบทสัมภาษณ์จำนวน 19 เรื่อง มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ ที่ยาวนานทั้งทางด้านวัฒนธรรมและการเมืองของชาวไทใหญ่ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศพม่าที่ได้ทำการต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหาร เพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกครองตัวเอง ภายใต้ประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย และในยุคที่ลัทธิอุดมการณ์ทางการเมืองภายหลังจากเหตุการณ์สงครามเย็น ซึ่งประเทศมหาอำนาจในโลกต่างเข้ามามีอิทธิพลกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อยและรัฐบาลทหารพม่าเช่นกัน ทั้งยังเสนอถึงอิทธิพลด้านวัฒนธรรมที่มีต่อการรักษาอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ ซึ่งได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีและค่านิยมความเชื่อต่างๆ ของชาวไทใหญ่และชาติพันธุ์อื่นๆ ในพม่า รวมทั้งทัศนคติ ของชาติพันธุ์ต่างๆ ที่มีต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย
Title
Author
ทีวีไทย.
Imprint
กรุงเทพฯ : ทีวีไทย, 2554
Collection
Audio Visual Materials: CDF 000300
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
สารคดีนี้กล่าวถึง การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเฮนไตในพื้นที่บ้านเมืองปอน เป็นชุมชนไทใหญ่ดั้งเดิม มีการตั้งถิ่นฐานมาเป็นเวลากว่า 200 ปี ตั้งอยู่ที่อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งยังคงมีร่องรอยการตั้งชุมชนแบบดั้งเดิมอยู่ โดยก่อนที่จะตั้งชุมชน คนในชุมชนจะมีการทำพิธีเสี่ยงสายหาพื้นที่ในการตั้ง “ใจบ้าน” เพื่อสร้างเสาหลักเมือง ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่คนชุมชนให้ความเคารพเป็นอย่างมาก มีการก่อตั้ง “หอเจ้าบ้าน” หรือ “หอผีประจำหมู่บ้าน” เป็นพื้นที่ของวิญญาณบรรพชนที่คอยปกปักษ์รักษาคุ้มครองลูกหลานในหมู่บ้าน คนไทใหญ่จะอยู่อาศัยเป็นชุมชน ส่วนของพื้นที่การเกษตรนั้นจะแยกออกมาจากพื้นที่อยู่อาศัย ทุกๆ บ้านจะมีบ่อน้ำและมีบ่อน้ำรวมภายในวัด และคนในชุมชนจะมาหาบน้ำจากบ่อไปใช้ รูปแบบของบ้านที่อยู่อาศัยมีทั้งแบบดั้งเดิม และแบบสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงตามสมัยนิยม บ้านแต่ละหลังจะมีการสร้างและแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน ชาวไทใหญ่จะมีพิธีปฏิบัติการบูชาบ้านบูชาเมือง การขอขมาลาโทษ และการบูชาเจ้าบ้าน ซึ่งทั้ง 3 พิธีนี้จะต้องทำเป็นประจำทุกปี
Author
นันทริยา สาเอี่ยม.
Imprint
เชียงใหม่ : ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2554.
Collection
Books: PN6519.ท9น64 2554
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างภาษิตภาษาไทใหญ่ และเพื่อศึกษาวัฒนธรรม ไทใหญ่ที่ปรากฏอยู่ในภาษิตภาษาไทใหญ่ ใช้วิธีการเก็บข้อมูลโดยการสำรวจเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับภาษิตและภาษิตภาษาไทใหญ่ รวมทั้งการสัมภาษณ์ผู้บอกภาษาชาวไทใหญ่เพื่ออธิบายความหมายสุภาษิตภาษาไทใหญ่ จากการศึกษาพบว่าโครงสร้างของภาษิตไทใหญ่ส่วนมากมีสองวรรค โดยมีจำนวนคำในแต่ละวรรคแตกต่างกันไป มีวิธีการใช้สัมผัสระหว่างวรรค ส่วนวัฒนธรรมด้านต่างๆ ที่ปรากฏในภาษิตภาษาไทใหญ่นั้น มีทั้งการแต่งกาย เครื่องมือเครื่องใช้ การทำนา การประกอบอาชีพ อาหาร ศิลปะการแสดง ดนตรีและการละเล่น ความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์ ช่วงอายุ การทำบุญ การพูด การฟัง มารยาท หน้าตา รวมไปถึงคำสอนในการดำเนินชีวิต ทั้งนี้ในรายงานการวิจัยได้รวบรวมภาษิตภาษาไทใหญ่พร้อมทั้งความหมายภาษาไทยให้ผู้สนใจได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 โทร. 0-2880-9429 ต่อ 3702
แฟ็กซ์ 0-2434-6254 อีเมล์ library@sac.or.th
Facebook : ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร-Sac library |
Line@ : @sac-library หรือคลิกเพื่อ Add Line http://line.me/ti/p/~@SAC-Library |
ห้องสมุด (ชั้น 8)
จันทร์ - ศุกร์ : 8:30 – 16:30 น.
เสาร์ : 9:00 – 16:00 น.
ห้องสมุดสุข กาย ใจ
จันทร์ - ศุกร์ : 8:00 – 18:00 น.
เสาร์ : 8:00 – 17:00 น.
หยุดวันนักขัตฤกษ์และวันหยุดตามประกาศราชการ