เขียนโดย . | วันที่เผยแพร่เอกสาร 01/01/2513
ผู้เข้าชม 2108 | จำนวนดาวน์โหลด 0
คะแนนสื่อ
ซ่องที่ซับพลู (๑๔ สค - ๑ พย ๑๒๑)
ไทย
ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
จดหมายเหตุแห่งชาติ, สำนัก.เอกสารกรมราชเลขาธิการ กระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๕ ม.๔ เรื่องที่ ๒ มณฑลจันทบุรี เรื่องซ่องที่ซับพลู (๑๔ สค - ๑ พย ๑๒๑). รหัสไมโครฟิล์ม มร. ๕ ม/๔๗,(ร.๕ม.๔๒(๑-๑๑) (ร.ศ.๑๑๔-ร.ศ.๑๒๙)) เลขที่เอกสาร ม.๔๒/๖
เอกสารกรมราชเลขาธิการ กระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๕
ม.๔ เรื่องที่ ๒ มณฑลจันทบุรี รหัสไมโครฟิล์ม มร. ๕ ม/๔๗,(ร.๕ม.๔๒(๑-๑๑) (ร.ศ.๑๑๔-ร.ศ.๑๒๙)) เลขที่เอกสาร ม.๔๒/๖ จำนวน ๕๓ หน้า
(หนังสือฉบับ๗/๕๑)กองทหารบางพระแจ้งว่ามีกุลาขุดทองที่พนัสนิคม(หน้า๓)...ที่บ่อทองนี้มีพวกกุลาโดยมากตั้งทำทอง หาได้ขอพระบรมราชานุญาตไม่ ตั้งตัวเป็นใหญ่เองมีอำนาจฆ่าฟันคนได้ จำหน่ายทองลงทางจันทรบูรีย์เสมอไป ระดูแล้งมีพลรวมทั้งไทยแลกุลาถึง ๔๐๐๐ คน...
(หนังสือฉบับที่๗/๕๔)กองทหารสอดแนมบางพระได้ประเมินจำนวน ผู้ที่ขุดทองเถื่อน(หน้า๕)...ในเวลานี้คงมีคนประมาณ ๒๐๐ คน ใน ๒๐๐ คนนี้คงมีพวกกุลาโดยมากกว่าไทยแลลาว กับสืบได้ความต่อไปว่าในระดูฝนย่อมมีคนเหลือน้อย...
(หนังสือฉบับที่๗/๕๔ การด่วน)เมื่อนายเรือเอกพระเจ้าลูกยาเธอ, รองผู้บัญชาการทหารเรือ(ไม่ออกนาม) ได้ไปสืบราชการที่เมือง พนัษนิคม ได้กล่าวถึงสภาพการและผู้คนในขณะนั้น(หน้า๙)... ชลที่เข้าเป็นคนชาตกุลา ลาวป่าดงแลเขมรจียปนกัน ในเวลาที่ ข้าพนะพุทธเจ้าไปถึงมีกุลาอยู่ประมาณ ๒๐๐ คนเสศ เป็นคนในบังคับอังกฤษบ้าง ไม่ได้รับหนังสือบ้าง กับลาว ๗ คนมีอาวุธปืนแก๊บแลดาบ...
(หนังสือฉบับที่๑๐๖๘/๗๗๘๗)มีหนังสือถึงพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสมมตอมรพันธุ์ ราชเลขานุการ เกี่ยวกับพวกที่ตั้งซ่องขุดทองไม่ยอมรับอาญาบัตร์(หน้า๑๘)...ด้วยกล่าวฯ ได้รับใบบอกพระศรี-สมุทโภค ผู้ว่าราชการเมืองชลบุรีที่ ๕๑,๗๖๐๘ ลงวันที่ ๙ เดือนนี้ ว่าเรื่องพวกเขมร กุลา พม่า ตั้งซ่องขุดหาทองอยู่ที่เขาซับพลู พวกนั้นไม่ยอมรับอาญาบัตร์ พระศรีสมุทโภค สืบได้ความจากนายรองพินิจ นายกาว แลนายชมพลทหารเรือว่า เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ศก ๑๒๑ นายรองพินิจ นายกาว นายชม ได้แต่งตัวปลอมเป็นลาวไปถึงเขาซับพลูตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม ได้ตรวจเห็นมีพวกกุลา พม่า เขมร ตั้งอยู่ที่นั้น ประมาณ ๒๐๐ คน มีอาวุธปืนแลดาบถือทุกตัวคน พวกเขมร กุลา พม่า ได้แจ้งแก่รองพินิจว่า เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ขุนสศดีกับกำนันหนุตำบลท่าบุนมี อำเภอพนัสนิคม ขึ้นไปจดบาญชีรายชื่อพวกกุลา พม่า เขมร ไม่ยอมบอกชื่อ แลนายร้อยได้แต่งให้พวกกุลา พม่า เขมรเสพย์สุราเมาถืออาวุธมาจะกระทำร้ายขุนสศดีแล (ต่อ)กำนันๆ ต้องหนีมาดังนี้... (สำเนา ที่ ๕๑/๗๖๐๘)พระศรีสมุทโภค ผู้ว่าราชการเมืองชลบุรี มีหนังสือถึงกรมหลวงดำรงราชานุภาพ ถึงการจัดตำรวจภูธร ขึ้นไปจัดการเรื่องขุดทองเขาซับพลู(หน้า๒๒ - ๒๓)...ว่าด้วยเรื่องบ่อทองเขาซับพลู ซึ่งพวกเขมร กุหล่า พม่า ตั้งขุดทองอยู่นั้น เป็นจำนวน ๑๖๓ คน...บัดนี้ หลวงฤทธิศักดิ์ชลเขตร์ ปลัด กับนายอำเภอพนัศ แลนายโทวาเซ็นกับพลตำรวจภูธร ๑๐ คน ได้ขึ้นไปบ่อทองแต่วันที่ ๘ ตุลาคม รศ ๑๒๑ ...
(สำเนารายงานที่ ๓๒๒ /๔๑๗ )พระอินทรา นายอำเภอรายงานมายังจ่าเมืองว่าได้ติดประกาศให้ราษฎรที่จะร่อนทองต้องขออนุญาตต่อเมือง(หน้า๒๘ - ๒๙)...ข้าพเจ้าได้หมายโฆษณาให้กำนันปิดประกาศปละป่าวร้องราษฎรผู้จะร่อนแร่ร่อนทอง และได้สั่งให้กำนันชี้แจงด้วยปากให้ราษฎรที่ตั้งร่อนแร่ร่อรทองมาขออนุญาตต่อเมืองตามคำสั่งอีกด้วย กำนันยื่นรายงานว่าได้ปิดหมายโฆษณาและได้ชี้แจงแล้ว แลว่าคนที่อยู่ตำบลเขาซับพลู เป็นคนชาติเขมร กุลา พม่า...
(สำเนาโทรเลข ที่ ๗๘ / ๗๑๔๓)หลวงฤทธิศักดิ์ชลเขตร์ มีโทรเลขถึง ผู้ว่าการมณฑลปาจิณว่าจะให้จัดการกับผู้ที่ขุดทองเขาซับพลูอย่างไร (หน้า๓๐)...เกล้า,ได้รับรายงานอำเภอพนัศว่ามีพวกเขมรกุลาพม่าร่อนแร่ทองที่ตำบลเขาซับพลู ๑๖๓ คน ไม่ยอมรับประธานบัตร โปรดให้จัดการอย่างไรขอทราบ เกล้า...
(สำเนาโทรเลขตอบกลับ)มีโทรเลขตอบกลับถึงหลวงฤทธิศักดิ์ ชลเขตร์ ให้เรียกหัวหน้าผู้ที่ขุดแร่ทองมาตักเตือน(หน้า ๓๑)...ที่หารือมณฑลว่าเขมร พม่า กุลา มาร่อนแร่ไม่รับอาชญาบัตรนั้น พวกนี้ต้องมีนายร้อย ให้เรียกตัวมาว่ากล่าวโดยดี...
(สำเนาคำสั่งที่ ๓๒๕ / ๗๑๗๗ )หลวงฤทธิศักดิ์ชลเขตร ปลัดผู้รั้งราชการเมืองชลบุรี มีคำสั่งลงมาถึงพระอินทรา นายอำเภอพนัศ ให้นำตัวหัวหน้าผู้ขุดทองมาตักเตือน ( หน้า ๓๒ )...ได้รับรายงานที่ ๓๒๒/๔๑๗ ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ศร(รศ ?) ๑๒๑ ว่าเขมรพม่ากุลามาร่อนแร่ทอง อยู่ที่ตำบลเขาซับพลู ๑๖๓ คน ไม่ยอมรับอาญาบัตร...เพราะฉนัน ให้พระอินทรา เรียกตัวนายร้อยหรือหัวหน้าของคนในหมู่นั้นมาว่ากล่าวแต่โดยดีก่อน...
(ต่อ)(สำเนาที่ ๓๕๕ / ๔๔๔ )พระอินทรารายงานมายังจ่าเมืองว่าน้ำท่วม ไม่สามารถนำหนังสือไปถึงหัวหน้าผู้ขุดทองได้(หน้า ๓๖ - ๓๗ )...ด้วยเมื่อวันที่ ๒๗ เดือนนี้ ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งที่ ๓๒๕/ ๗๑๗๗ ลงวันที่ ๒๕ เดือนนี้ ตามรายงานที่ ๓๒๒/๔๑๗ เรื่องเขมรกุลาพม่า มาพักร่อนแร่ทองที่ตำบลเขาซับพลู ไม่ยอมรับอาชญาบัตร์ แลตามคำสั่งนี้ ให้ข้าพเจ้าจัดการเพื่อเปนที่ตกลงกัน...ครั้นข้าพเจ้าจะจัดพนักงานให้ถือหมายขึ้นไปถึงกำนัน ให้ส่งตัวนายร้อยหรือหัวหน้าคนในหมู่นั้น มาว่ากล่าวตามคำสั่งก็ไปไม่ได้ โดยน้ำท่วมทางลึกเดินไปมาหาได้ไม่...
(สำเนาเลขที่ ๖๕๙ / ๑๕๓๘ )มีหนังสือถึงกรมดำรงราชานุภาพ ว่าต้นใบบอกที่จะทูลถวายทอดพระเนตร บัดนี้พระองค์ยังไม่ทราบเรื่อง(หน้า ๔๐ )...ด้วยได้รับลายพระหัตท่าน ที่ ๑๐๖๔ /๗๗๔๗ ลงวันนี้ ว่าพระศรีสมุทโภค ผู้ว่าราชการเมืองชลบุรี มีบอกมาเรื่องเขสร กุลา พม่า ตั้งซ่องขุดหาทองอยู่ที่บ่อทองเขาซับพลู ไม่ยอมรับราชอาญาบัตร ท่านว่าได้นำต้นใบบอกในเรื่องนี้ทูลเกล้าถวายทอดพระเนตรแล้วนั้น ได้นำกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าให้ทูลมาว่าต้นใบบอกนั้น ยังไม่ได้ทรงรับทราบ...
(หนังสือฉบับที่ ๒๑๐๘ / ๘๐๘๖ )กรมดำรงราชานุภาพได้ตอบกลับเรื่องได้ส่งสำเนาใบบอกไปให้แล้ว(หน้า ๔๒ )...ด้วยตามความในลายพระหัตที่ ๖๕๙,๑๕๓๘ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ศก ๑๒๑ ต้องพระประสงค์สำเนาใบบอกพระศรีสมุทโภค ผู้ว่าราชการเมืองชลบุรี เรื่องพวกพม่า กุลา ลาว เขมร ไปตั้งซ่องขุดหาทองที่เขาซับพลูนั้น เกล้าได้ให้คัดสำเนาใบบอกพระศรีสมุทโภคฉบับที่ ๕๑,๗๖๐๘ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ศก ๑๒๑ ฉบับที่ ๑ ถวายมาพร้อมกับจดหมายฉบับนี้ด้วยแล้ว...
(สำเนาโทรเลข หมายเลข ๒๔ )หลวงฤทธิศักดิ์ ส่งโทรเลขมาถึงเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย แจ้งจำนวนผู้ขุดทอง รวมทั้งแจ้งการดำเนินการจดชื้อและประชาสัมพันธ์เรื่องการขออนุญาต ว่าเป็นไปอย่างเรียบร้อย(หน้า๔๔)...กราบทูลเสนาบดีมหาดไทย กรุงเทพฯ มีพวกกุลาทำบ่อทอง ๕๘ พม่า ๙ ลาว ๓๓ เขมร ๙ รวม ๑๐๙ คน เกล้าฯไปตรวจกับพระอินทราษา นายร้อยเอก โทเวลเซน ถึงวันที่ ๙ ได้เรียกประชุมจดชื่อจดชื่อตำหนิทุกคน แลให้ชี้แจงเสียเงินรับใบอนุญาต พวกนี้ก็ยอมไม่ขัดขืน...
(ต่อ)(หนังสือฉบับที่ ๒๑๑๘ /๘๑๘๐)กรมดำรงแจ้งต่อกรมขุนสมมตอมรพันธุ์ ราชเลขานุการ ว่าได้รับใบบอกพระอินทราษา นายอำเภอเมือง พนัศนิคม ที่ลงไปตรวจท้องที่แล้ว(หน้า๔๘)...ด้วยตามความในจดหมายของเกล้าฯ ที่ ๒๑๐๘,๘๐๘๖ ลงวันที่ ๒๗ เดือนนี้ ถวายสำเนาใบบอกพระศรีสมุทโภค ผู้ว่าราชการเมืองชลบุรี เรื่องพวกพม่า กุลา ลาว เขมร ตั้งซ่องหาทองที่เขาซับพลู แขวงเมืองพนัสนิคมนั้น บัดนี้เกล้าฯ ได้รับบอกพระอินทราษา นายอำเภอเมืองพนัศนิคม ลงวันเดือน ตุลา ศก๑๒๑ เป็นรายงานการที่พระอิทราษาไปตรวจในตำบล...
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดเอกสาร เข้าสู่ระบบ *