Thursday, 19 September 2013 14:30

Vela of Nenmara and Vallenghi

หลังจากการฉลองเทศกาลในวันที่สิบของเทศกาลที่มีชื่อว่า Vela อันหมายถึงเทศกาลแห่งขบวนการแข่งขันเทศระหว่างสองหมู่บ้านคือ Nenmara และ Vallenghi (ใน Kerala ทางตอนใต้ของอินเดีย) ทั้งนี้เพื่อสักการะเจ้าแม่ Sri Nellikulangara Bhagavati ผู้ซึ่งปลดปล่อยพวกเขาจากราชาปีศาจ Dharika จุดสุดยอดและปิดการจัดงานเทศกาล จะประกอบด้วยขบวน และนำหน้าด้วยช้าง 10 เชือกที่มีการประดับประดากันอย่างเต็มที่ เพื่อนำเครื่องสักการะของแต่ละหมู่บ้านไปสู่วัดซึ่งเป็นศูนย์กลางของ 2 หมู่บ้าน ท่ามกลางเสียงของเครื่องดนตรีประจำหมู่บ้าน (nagarvadyam) และวงออเคสตรา"คลาสสิก"(panchavadyam) ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้จากภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้

Wednesday, 18 September 2013 20:51

Arts et traditions popularies au Yemen

เป็นเรื่องราวของสาธารณรัฐเยเมนอาหรับ, ผู้คนและกิจกรรมวันต่อวันของพวกเขาได้ค้นพบว่าเมื่อได้เดินทางผ่านไปพบเห็น

The Yemen Arab Republic, its people and their day-to-day activities, as discovered on a tour through town and country.

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในฤดูใบไม้ร่วงปี 2000 ทางตอนเหนือของอาร์กติกเซอร์เคิล ตอนกลางของ Kolyma ในภาคตะวันออกของ Yakutia งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อสังคม ของชนพื้นเมืองในไซบีเรียอาร์กติก ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแถบลุ่มแม่น้ำ Berezovka ซึ่งแต่งแต้มไปด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ วัฒนธรรมและเศรษฐกิจภายในอาณาเขตของชาว Yakut ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปพร้อมกับการดำรงอยู่ด้วยการล่ากวางเรนเดียร์ภาษาที่ ใช้พูดกันในครอบครัวเป็นภาษาแมนจู (Manchu) กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในตอนกลางของ Kolyma นี้ต่อต้านการถูกรวมเข้ากับโซเวียตมาเป็นเวลานานกว่าการเติบโตของเรนเดียร์ ทุกวันนี้กวางเรนเดียร์อยู่ในภาวะวิกฤต เช่นเดียวกับการที่ผู้สูงอายุในชุมชนพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาเอกลักษณ์ของ พวกเขา (ภาษาและความรู้เช่นการทำอาหารแบบดั้งเดิมเสื้อผ้าและวัฒนธรรมในทั่วไป) ในท่ามกลางของสังคมหลายเชื้อชาติ

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอพิธีกรรมที่เรียกว่าซูฟี (Sufi) ของมุสลิมประกอบพิธีขึ้นที่ The Damascus branch of the Rifa'iyya Damascus ประเทศซีเรีย พิธีกรรมนี้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องลึกลับของผู้ก่อตั้งชื่อ Sheikh Ahmad b. 'Ali Al - Rifa`i (1118-1183) กาหลิบ (Caliph) คนปัจจุบันจะเป็นผู้นำในพิธีดังกล่าว ซึ่งจะจัดให้มีในวันพฤหัสบดีตอนเย็น สมาชิกของ Rifa'iyya จะมาร่วมกันปฏิบัติตามขั้นตอนของพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อถวายเกียรติ แด่พระศาสดา การร้องเพลง พร้อมการร่ายรำและท่าทาง จะดำเนินไปพร้อมกันท่ามกลางอำนาจลึกลับเพื่อวิงวอนและขอพรจากพระศาสดา แก่ครอบครัวของเขาและนักบุญ มีการสวดมนต์และทบทวนพระคัมภีร์อัลกุรอาน สลับด้วยดนตรี ซึ่งมีกลองและฉาบ การอ่านของ Surah Ya Sin จากคอลเลกชันของ Rifa'a Dhikr จะตรวจสอบเหมาะสมของการปฏิบัติ สุดท้ายก่อนปิดจะมีการอธิษฐานและให้ศีลให้พร

Wednesday, 18 September 2013 14:29

Journal d'un ethnologue en Chine

Patrice Fava ซึ่งเป็นนักมานุษยวิทยาและเป็นผู้สร้างภาพยนตร์เองด้วย ได้เดินทางไปยังชนบทของประเทศจีนที่ซึ่งยังคงมีประเพณีส่วนใหญ่สืบทอดมาจาก ลัทธิเต๋าซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งอธิบายให้เห็นถึงชีวิตสบายๆในพุทธศาสนาและลัทธิเต๋าในแถบเทือกเขา Huangshan ยังคงใช้ดำเนินชีวิตด้วยการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีซึ่งแบบแผนการดำเนินชีวิต เหมือนย้อนกลับไปยังศตวรรษที่สิบสี่ ยังมีการแสดงหุ่นกระบอกโบราณ การประดิษฐ์ตัวอักษรของบทกวี การทำก๋วยเตี๋ยวงดงาม งานเทศกาลของครีษมายันมีการแข่งเรือและกลอนสดร้องเพลงแข่งขันในจังหวัดที่หู หนาน การทำประมง การวาดภาพวาด ตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยาในเมืองเฉิงตู ตลาดนกในกรุงปักกิ่ง ศิลปะการต่อสู้ต่างๆที่เราเห็นในตอนเช้าในสวนสาธารณะและถนนของเซี่ยงไฮ้

การเดินทางของ Korrigane ในย่านแถบใต้ทะเลระหว่างปี (1934-1936) คือการเดินทางที่เป็นตำนานของห้าชายหนุ่มที่มีฐานะ พวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะค้นหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อโลกสมัยใหม่ พวกเขาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชุดสุดท้ายที่ได้เดินทางไปยังดินแดนที่ยังไม่ได้ มีการสำรวจและได้ค้นพบทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากกว่า 2,500 ชิ้น และมันได้ถูกจัดแสดงได้อย่างดีในพิพิธภัณฑ์ L'Homme กรุงปารีสที่เปิดขึ้นในปี 1938 ส่วนที่เหลืออีก 800 ชิ้น ถูกจัดเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Quai Branly ต่อมา Jean - Paul Fargier ผู้สร้างภาพยนตร์ พร้อมด้วย Christian Coiffier นักชาติพันธุ์วิทยาได้ออกเดินตามรอยตำนานเดิมในปี 2005 ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างยาก พวกเขาได้ย้อนให้กลับไปเห็นลูกหลานของศิลปินและช่างฝีมือชาวปาปวนที่ผลิตงาน ขายให้กับเยาวชนฝรั่งเศส กาลเวลาไม่ได้ทำให้เขาลืมเลือนผลงานที่เป็นศิลปะ มันยังคงดำเนินต่อไป และยังคงซ่อนความหมายอยู่ในชิ้นงานต่อไป

ภาพยนตร์ Nanook of the North ออกฉายเมื่อปี 1922 เป็นผลงานของ โรเบิร์ต เจ.ฟลาเฮอร์ตี้ (Robert J.Flaherty) หนุ่มอเมริกันนักสำรวจแร่ในอ่าวฮัดสัน แคนาดา ที่บันทึกภาพวิถีชีวิตของนานุค (Nanook) และครอบครัวซึ่งเป็นชาวอินนูอิต (Inuit ชื่อเรียกเอสกิโมในแถบอลาสก้าตอนเหนือ แคนาดา กรีนแลนด์) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของฟลาเฮอร์ตี้และเชื่อกันว่าเป็นภาพยนตร์สารคดีขนาดยาวเรื่องแรกของโลก

ภาพยนตร์ Nanook of the North ได้ถ่ายทำใกล้ๆกับ Inukjuak ในอ่าวฮัดสันทางเหนือของเมืองควิเบกประเทศแคนาดา งานที่ผลิตขึ้นมีลักษณะเป็นผู้สังเกตการณ์ (observational) และเป็นนักสำรวจในคาบสมุทรอาร์กติกของแคนาดา Flaherty เองคุ้นเคยกับชาวอินนูอิตในพื้นที่อยู่แล้วจึงทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวชีวิตประจำวันของคนเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ Flaherty ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่นี้มาก่อน แต่วิดีโอที่ถ่ายไว้ถูกไฟไหม้เพราะเขาทิ้งก้นบุหรี่ลงบนแผ่นฟีล์มของเขาเอง Flaherty จึงต้องถ่ายทำ Nanook of the North ขึ้นมาใหม่ โดยได้รับทุนอุดหนุนจากบริษัทผลิตขนสัตว์ของประเทศฝรั่งเศส ภาพยนตร์ได้ถูกถ่ายทำระหว่างเดือนสิงหาคม 1920 ถึงสิงหาคม 1921

This classic film focuses on an ‘Eskimo’ hunter and his family as they struggle for survival against the harsh forces of nature in the Canadian artic. This film was Flaherty’s first film and has been widely acclaimed as the first full length documentary film. The film was shot near Inukjuak, on Hudson Bay in northern Quebec, Canada. Having worked as a prospector and explorer in Arctic Canada among the Inuit, Flaherty was familiar with his subjects and set out to document their lifestyle. Flaherty had shot film in the region prior to this period, but that footage was destroyed in a fire started when Flaherty dropped a cigarette onto the original camera negative (which was highly flammable nitrate stock). Flaherty therefore made Nanook of the North in its place. Funded by French fur company Revillon Frères, the film was shot from August 1920 to August 1921.

 

 

Wednesday, 18 September 2013 10:36

Tinpis run

"ปาปา" อดีตเป็นหัวหน้าของชนเผ่าในพื้นที่สูงซึ่งปัจจุบันผันอาชีพมาเป็นคนขับ แท็กซี่ "Tinpis" ของกลุ่ม Bush-Taxi ปาปาเคยได้รับการช่วยชีวิตจาก Naaki, เด็กหนุ่มเมือง เขาจึงยกลูกสาวให้ Naaki เป็นการขอบคุณ แต่ทั้ง Joanna และ Naaki ต่างก็ปฏิเสธความหวังดีจากผู้เป็นพ่อแต่สุดท้ายทั้งสองก็ได้ตกหลุมรักกัน จริง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตลกชวนหัว ซึ่งเราจะได้เห็นถึงความหลากหลายของสังคมที่ซับซ้อน ได้เห็นช่องว่างในสังคม ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งของหญิงและชายจากในวันนี้และศตวรรษที่ผ่านมา ติดตามเรื่องราวได้จากภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของปาปัวเป็นเรื่องแรก

Wednesday, 18 September 2013 10:14

Napepe

วิดีโอเรื่องนี้เป็นการสัมภาษณ์ชนพื้นเมืองที่เรียกว่า Yanomami พวกเขามีคำถามย้อนไปเมื่อปี 1968 ที่ขณะนั้น Napoleon Chagnon และ James Neel ได้เข้ามาในเวเนซุเอลาและบราซิลเพื่อเก็บตัวอย่างเลือดพวกเขาไปทำวิจัย วิดีโอนำเสนอให้เห็นถึงการเอาตัวอย่างเลือดของ Yanomami ไปกับสิทธิมนุษยชนของชาวพื้นเมืองเหล่านี้ รวมทั้งจริยธรรมในการวิจัยทางการแพทย์ที่ทำด้วย ในขณะที่ได้ชาวพื้นเมืองก็เรียกร้องที่ให้นำตัวอย่างเลือดของพวกเขากลับมา ด้วย

In this video you see interviews with some of the Yanomami people. They are asking back their blood taken in 1968 by Napoleon Chagnon and James Neel in an expedition to Venezuela and Brazil. The video aims to make those working with the Yanomami blood samples think about the rights of the indigenous people and the ethics in medical research while hearing from them that they do want the blood back.

Monday, 16 September 2013 16:19

First contact

First Contact เป็นหนังสารคดีที่สร้างขึ้นในปี 1983 โดย Bob Connolly และ Robinson Anderson เล่าถึงการค้นพบประชากรพื้นเมืองในพื้นที่สูงของนิวกินีในปี 1930 ในพื้นที่ที่คิดว่าไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีหนังสือที่เขียนขึ้นในชื่อเดียวกันและผู้เขียนเดียวกัน มีคนในภูมิภาคและสมาชิกพี่น้อง Leahy ที่ทำเหมืองทองที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เล่าขานเรื่องที่ไปพบมาผ่านภาพยนต์ที่ ถ่ายมาโดยสมาชิกที่ร่วมเดินทางและวิดีโอร่วมสมัยของภูมิประเทศของเกาะถูก เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Documentary Feature ด้วย

Page 1 of 2
SFbBox by EnterLogic