เขียนโดย . | วันที่เผยแพร่เอกสาร 01/01/2513
ผู้เข้าชม 2354 | จำนวนดาวน์โหลด 0
คะแนนสื่อ
พวกเขมร พม่า กุลา ลาว อพยพเข้ามาอยู่ในแขวงเมืองตราด ๑๙ ก.ย.-๑๒ ก.พ. ๑๒๑
ไทย
ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
จดหมายเหตุแห่งชาติ, สำนัก. เอกสารกรมราชเลขาธิการ กระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๕ ม.๔ เรื่องที่ ๒ มณฑลจันทบุรีเรื่องพวกเขมร พม่า กุลา ลาว อพยพเข้ามาอยู่ในแขวงเมือง ๑๙ ก.ย.-๑๒ ก.พ. ๑๒๑). รหัสไมโครฟิล์ม มร. ๕ ม/๔๗,(ร.๕ม.๔๒(๑-๑๑) (ร.ศ.๑๑๔-ร.ศ.๑๒๙)) .เลขที่เอกสาร ม.๔๒/๗
เอกสารกรมราชเลขาธิการ กระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๕
ม.๔ เรื่องที่ ๒ มณฑลจันทบุรี รหัสไมโครฟิล์ม มร. ๕ ม/๔๗,(ร.๕ม.๔๒(๑-๑๑) (ร.ศ.๑๑๔-ร.ศ.๑๒๙)) เลขที่เอกสาร ม.๔๒/๗
จำนวน ๒๓ หน้า
(หนังสือฉบับที่ ๓๑๔/๖๘๙๓)กรมดำรงในฐานะเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือแจ้งเรื่องลาว เขมร อพยพเข้ามา ทำมาหากินในแขวงเมืองตราด และเรื่องให้คนเหล่านี้เสียเงิน ค่าราชการ(หน้า๓-๔)...ได้รับใบบอกพระยาพิพิธพิไสยสุนทรการ ผู้ว่าราชการเมืองตราด ที่ ๑๕/๗๐๐ ลงวันที่ ๑ กันยายน ร.ศ. ๑๒๐ ความว่า มีพวกลาวเขมรพาครอบครัวมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ตั้งทำมาหากินอยู่ตามเชิงเขา ชายป่าดงในเขตแขวงเมืองตราดโดยมาก...ครั้นเมื่อปี ร.ศ. ๑๐๙ พระยาพิพิธพิไสยสุนทรการ ได้ตรวจทำบัญชี ได้จำนวนที่มีบ้านเรือนหลักถาน ๗๐ ครัว คิดเป็นชาย ๑๑๕ คน เป็นหญิง ๑๐๒ คน ที่ไม่มีบ้านเรือนครอบครัว ๑๓๔ คน ครั้นมาในศก ๑๒๐ - ๑๒๑ นี้ มีคนลาวเขมรเพิ่มเติมเข้ามาตั้งขุดหาร่อนพลอย
แลทำมาหากินอยู่ตามตำบลบ่อพลอยอีกประมาณไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ คน...พวกลาวเขมรที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ทำมาหากินในแขวงเมืองตราดเกิน ๓ ปีแล้ว สมควรจะจัดให้เข้ารับราชการเป็นทหารเรือเป็นต้น แต่ฟังเสียงดูเป็นที่หวาดหวั่นจะต้องเป็นทหาร พระยาพิพิธพิไสสุนทรการ จึงคิดเห็นอีกอย่างหนึ่งว่า ถ้ายังไม่ให้เป็นทหารก็ควรเก็บเป็นเงินค่าราชการ เช่นอย่างมณฑลราชบุรี เก็บแก่พวกเกรี่ยงมอญ...
(หนังสือเลขที่ ๒๔๓๙/๑๐๔๙๔)มีหนังสือมาถึงกรมขุนสมมตอมรพันธุ์ ราชเลขานุการ ว่ายังไม่มีพระกระแสพระราชทานดำริห์อย่างไร (หน้า๗)...ด้วยเรื่องคนลาว เขมร อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโภธิสมภาร ขุดหาร่อนพลอยแขวงเมืองตราด แลขอรับพระราชทานเก็บเงินค่าราชการแก่คนที่เข้ามาตั้งทำมาหากินอยู่เกินกว่า ๓ ปี คนหนึ่งปีละ ๒ บาทนั้น ยังหาได้รับพระราชทานพระกระแสพระราชดำริห์ประการใดไม่...
(ต่อ)(หนังสือเลขที่ ๒๓๓๑ / ๙๗๐๗ )กรมดำรงได้มีหนังสือถึงกรมขุนสมมต อมรพันธุ์ ราชเลขานุการ ว่าได้มีพวกพม่า ต้องซู่ ลาว เขมร อพยพเข้ามาเพิ่มเติม(หน้า๑๑ - ๑๒ )...ได้รับรายงานนายอำเภอศรีบัวทองว่าในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ร.ศ. ๑๒๑ มีพวกพม่า ต้องซู่ ลาว เขมร พากันอพยพครอบครัวเข้ามาขุดหาร่อนพลอยอยู่ตามบ้านทุเรียน บ้านคลองยอ ท้องที่อำเภอศรีบัวทอง จำนวนคนพม่า ต้องซู่ ลาว เขมร รวมทั้งชายหญิง ประมาณไม่ต่ำกว่า ๑๐๐๐ คน...พระยาพิพิธพิไสย เห็นว่าคนจำพวกลาว เขมร พม่า ต้องซู่ ที่พากันเข้ามาหากินในเขตแขวงเมืองตราดโดยมากเข้าทุกวันนี้จะเป็นเหตุหวาดหวั่นของราษฎร...พระยาพิพิธพิไสย จึงได้ขอกำลังจากพนักงานทหารเรือเมืองตราด ๑๒ คน จัดให้หลวงยุทธิรงค์ ยกบัทร พนักงานรักษพระอัยการไปตรวจตราราดตระเวร เพื่อเป็นอำนาจช่วยกำนันผู้ใหญ่บ้านป้องกันรักษาเหตุร้ายต่างๆ...
(หนังสือเลขที่ ๒๔๓๘ / ๑๐๔๙๐ )มีหนังสือถึงกรมขุนสมมต อมรพันธุ์ ราชเลขานุการ ว่าพระยาพิพิธพิไสยสุนทรการ ผู้ว่าราชการเมืองตราด ได้จัดการลงทะเบียนผู้ที่เข้ามาขุดหาร่อนพลอย(หน้า ๑๖-๑๗)...นายอำเภอศรีบัวทองได้ไปตรวจราชการทองที่ตำบลบ้านตากแว้ง บ้านทุเรียน บ้านคลองยอ บ้านคลองโสน บ้านนางบิน บ้านไร่ บ้านทุ่งนางรอด ซึ่งเวลานี้พวกตองซู่ ลาว เขมร พม่า อาไศรยตั้งขุดหาร่อนพลอย...หลวงรามฤทธิรงค์ ยกบัตรกับหลวงศรีประทุมเขตร์ นายอำเภอได้จัดการตรวจลงทะเบียนคนลาว เขมร เสร็จสิ้นเชิง ได้จำนวนคนลาว เขมร ขุดหาร่อนพลอยอยู่ในเวลานี้ ชาย ๔๔๒ คนคนพม่า ตองซู่ จำนวนคนชายไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ คน...
(หนังสือเลขที่ ๒๙๓๖ / ๑๒๒๗๖ )กรมดำรงได้แจ้งต่อกรมขุนสมมต อมรพันธุ์ ราชเลขานุการ ว่ามีคนลาว เขมร อพยพเข้ามาขุดแร่พลอยเพิ่มเติม(หน้า๒๑-๒๒)...บัดนี้ เกล้าฯ ได้รับบอกพระยาพิพิธพิไสยสมุทรการ ผู้ว่าราชการเมืองตราด ที่ ๑๓๓ /๑๑๓๘ ลงวันที่ ๒๕ มกราคม ร.ศ. ๑๒๑ ว่าพระยาพิพิธพิไสยสมุทรการ ได้รับรายงานนายอำเภอศรีบัวทองอีกฉบับหนึ่งว่า เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ร.ศ. ๑๒๑ นายอำเภอศรีบัวทองได้ไปตรวจท้องที่ในหมู่บ้านทุเรียน บ้านคลองโสน บ้านวังอายเผือก บ้านทุ่งนางบิน บ้านไร่ บ้านทุ่ง-นางรอด ซึ่งเป็นท้องที่เกิดแร่พลอดในอำเภอศรีบัวทองมีคนลาว เขมร เพิ่มเติมเข้ามา หาขุดร่อนพลอยในหมู่บ้านเหล่านี้อีก นายอำเภอศรีบัวทองได้ตรวจลงทะเบียนคงได้ (ต่อ)จำนวนคนลาว เขมร ซึ่งเข้ามาใหญ่ ๑๕๐ คน คนพม่า ตองซู่ ๑๐๐ คน...
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดเอกสาร เข้าสู่ระบบ *